เปิดประวัติ “จอห์น ลี” ตัวเต็งเบอร์หนึ่งผู้นำฮ่องกงคนใหม่

08 เม.ย. 2565 | 09:19 น.
อัปเดตล่าสุด :08 เม.ย. 2565 | 16:31 น.

จอห์น ลี อดีตรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและหัวหน้าคณะรัฐมนตรีฮ่องกง กำลังถูกจับตาว่านี่คือตัวเต็งเบอร์หนึ่ง ว่าที่ผู้นำฮ่องกงคนใหม่แทนนาง แคร์รี แลม เขามีผลงานมาอย่างไร ทำไมจึงได้ชื่อว่า “ลูกรักจีนแผ่นดินใหญ่” และกลุ่มเศรษฐีฮ่องกงให้การสนับสนุน

ฮ่องกง กำลังจะมี การเลือกตั้งผู้บริหารสูงสุด (Chief Executive) ในวันที่ 8 พ.ค. 2565 ขึ้นมาเป็นผู้นำคนใหม่แทน นางแคร์รี แลม ซึ่งดำรงตำแหน่งมาครบวาระ 5 ปีในปีนี้ และเธอเองได้ประกาศชัดแล้วว่า จะไม่ลงแข่งขันชิงตำแหน่งเป็นสมัยที่สองเนื่องจากเหตุผลทางครอบครัว แสงสปอตไลท์จึงได้สาดส่องมาที่ นายจอห์น ลี (John Lee) หัวหน้าคณะรัฐมนตรีฮ่องกง ที่ยื่นลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมตัวลงแข่งในสนามเลือกตั้งที่ใกล้เข้ามาทุกที

 

ด้วยโปรไฟล์การทำงานที่ผ่านมา ทำให้ “จอห์น ลี” กลายเป็นตัวเต็งเบอร์หนึ่ง เรามาดูกันว่า จุดแข็งของเขาและผลงานที่ผ่านมา มีอะไรบ้าง

จอห์น ลี ตัวเต็งผู้นำสูงสุดคนใหม่ของฮ่องกง

  • จอห์น ลี ทำงานเคียงข้างกับนางแคร์รี แลม มาโดยตลอด ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าการสืบทอดภารกิจหลักต่าง ๆ จะมีความสอดคล้องและต่อเนื่องกับผู้นำคนเก่าอย่างราบรื่น  ลีรับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลฮ่องกงมาตั้งแต่ปี 2560 ต่อมาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีฮ่องกงในปี 2564 จนกระทั่งถึงวันลาออกมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้บริหารสูงสุด
  • ลีเติบโตมาจากเส้นทางการทำงานด้านความมั่นคง รวมทั้งการกำกับดูแลการทำงานของตำรวจฮ่องกง เขามีผลงานการปราบปรามผู้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับรัฐบาลเพื่อเหตุผลด้านความมั่นคงและการรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคม ยกตัวอย่างเช่นการบุกรวบตัวผู้บริหารหนังสือพิมพ์ “แอปเปิล เดลี่” ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่เรียกร้องประชาธิปไตย ทำให้หนังสือพิมพ์ดังกล่าวต้องปิดตัวลงในวันที่ 24 มิ.ย. 2564 และให้หลังเพียงวันเดียว นายลีก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีฮ่องกง
  • หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ สื่อใหญ่ของฮ่องกงรายงานว่า เจ้าหน้าที่หลายคนของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่กล่าวกับคณะกรรมการการเลือกตั้งของฮ่องกงในการประชุมเมื่อวันพุธ (6 เม.ย.) ว่า นายลีเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งเพียงคนเดียวที่จีนแผ่นดินใหญ่ชื่นชอบ
  • เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น? เหตุผลชัดเจนก็คือ จอห์น ลี ทำงานเข้าตารัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่เพราะที่ผ่านมา ตั้งแต่รับตำแหน่งรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลฮ่องกงเมื่อปี 2560 ลีก็เป็นผู้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจัดการกับผู้ชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่หลายต่อหลายครั้งในระหว่างการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลในปี 2562 รวมถึงการปราบปรามผู้ที่จ้องท้าทายอำนาจรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ ไม่แปลกใจที่ เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีอย่างรวดเร็วชั่วข้ามคืน หลังส่งตำรวจเข้าบุกค้นและสั่งปิดสำนักงานหนังสือพิมพ์แอปเปิล เดลี่ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่เรียกร้องประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2564  
  • ข้อมูลจาก Bloomberg Billionaires Index ระบุว่า กลุ่มตระกูลที่บริหารอาณาจักรธุรกิจใหญ่ ๆในฮ่องกง ซึ่งมีความมั่งคั่งมูลค่ารวมกันมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่างก็ให้ความสนับสนุนนายจอห์น ลี กลุ่มเจ้าสัวที่ว่านี้ประกอบด้วยมหาเศรษฐีในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งคณะผู้บริหารจากบริษัทซันฮุงไก พร็อพเพอร์ตีส์ จำกัด , บริษัทซีเค กรุ๊ป , บริษัทเฮนเดอร์สัน แลนด์ ดีเวลอปเมนต์ จำกัด และบริษัทนิว เวิลด์ ดีเวลอปเมนต์ จำกัด เขาเหล่านี้ ประกาศสนับสนุนนายลี หลังประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าคณะรัฐมนตรีเพื่อมาลงชิงชัยในศึกเลือกตั้ง
  • กลุ่มเจ้าสัวเหล่านี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้กุมอำนาจของฮ่องกงแต่ต้องสูญเสียอิทธิพลทางการเมืองและเศรษฐกิจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขายอมจำนนต่อจีนแผ่นดินใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อคงไว้ซึ่งอำนาจ การหันมาสนับสนุน “จอห์น ลี” ซึ่งเปรียบเสมือนเด็กในโอวาทจีนแผ่นดินใหญ่ จึงเท่ากับเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อรัฐบาลจีน
  • นอกจากนี้ การที่รัฐบาลจีนเข้ามาปรับโครงสร้างคณะกรรมการการเลือกตั้งของฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว ยังทำให้อำนาจในการลงมติและอิทธิพลทางการเมืองของกลุ่มเจ้าสัวลดลงไปอีก วิธีที่ดีที่กลุ่มมหาเศรษฐีเหล่านี้จะเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนได้อีกครั้ง จึงเป็นการเชื่อมโยงผ่านผู้นำคนใหม่หากนายลีได้ขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดของฮ่องกงขึ้นมาจริง ๆ

ลีเติบโตมาในสายงานด้านการรักษากฎหมายและความมั่นคง

จอห์น ลี เกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2500 ปัจจุบันอายุ 64 ปี เขาสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากโรงเรียนคริสเตียนชายล้วน Wah Yan College ในเขตเกาลูน ฮ่องกง และจบการศึกษาระดับปริญญาโทหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานโยบายสาธารณะ จากมหาวิทยาลัยชาร์ล สจวร์ต ก่อนที่จะเข้าร่วมงานในสำนักงานตำรวจแห่งฮ่องกง (Hong Kong Police Force) ระหว่างปี 2520 – 2555 จากนั้นเขาเข้าร่วมงานกับกระทรวงความมั่นคง ก่อนจะแสดงผลงานเข้าตาผู้ใหญ่ ได้รับความไว้วางใจและมอบหมายเป็นรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงในปี 2560

 

อย่างไรก็ตาม เดือนสิงหาคมปีเดียวกันนั้น ชื่อของจอห์น ลี ถูกรัฐบาลสหรัฐอเมริกา(สมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์) ขึ้นบัญชีดำจากเหตุปราบปรามผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย