ฐานเศรษฐกิจ เกาะติดโปรแกรมการแข่งขัน ถ่ายทอดสด ศึกฟุตบอล UCL "ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก" คืนนี้(4พ.ค.65) รอบรองชนะเลิศ นัดที่2 ระหว่าง ราชันชุดขาว "เรอัล มาดริด" เปิดสนามซานติอาโก้ เบอร์นาบิว พบกับ เรือใบสีฟ้า "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" เริ่มเตะเวลาตีสอง (02.00 น.) ตามเวลาประเทศไทย
ย้อนไปดูผลงานการพบกันนัดแรก ที่อังกฤษ เมื่อ 26 เม.ย.2565 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะไปได้ 4-3 ทำให้ราชันชุดขาวแม้จะเสียฟอร์มบุกไปแพ้ แต่มีประตูตุนถึง 3 ลูก แต่ทั้งนี้กฎอเวย์โกลถูกยกเลิกไปแล้ว
จึงหมายความว่าหากผลการแข่งขันจากทั้งสองเลกลงเอยด้วยการเสมอกันไม่ว่าจะสกอร์เท่าไรก็ตาม เกมจะถูกลากยาวไปถึงช่วงต่อเวลาทันที และหากยังคงเสมอกันอยู่ ก็จะไปวัดที่การดวลจุดโทษเพื่อหาผู้เข้ารอบ
สำหรับศึกระหว่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ กับ เรอัลมาดริดนั้น เคยเจอกันในรายการ UCL มาแล้ว 7 ครั้ง เรอัล มาดริด ชนะ 2 นัด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 3 นัด จบลงด้วยผลเสมอ 2 นัด
แต่วันนี้ เป็นการโคจรมาเจอกันในรอบรองชนะเลิศอีกครั้งหลังจากทั้งคู่เคยเจอกันในรอบนี้มาแล้วเมื่อฤดูกาล 2015-2016 โดยเกมแรกที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จบด้วยผลเสมอ ก่อนที่นัดที่ 2 แฟร์นานโด จะมาทำเข้าประตูตัวเองที่ แบร์นาบิว ทำให้ เรอัล มาดริด ผ่านเข้าชิงชนะเลิศในปีนั้น และคว้าแชมป์ด้วยการดวลจุดโทษ ชนะ แอตเลติโก้ มาดริด ทีมเพื่อนร่วมลีก
สถิติทางฟากฝั่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้น ปีที่แล้วเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ก่อนแพ้ให้กับ เชลซี ซึ่งปีนี้พวกเขาก็หวังจะทะลุสู่รอบชิงเป็นครั้งที่ 2 ใน 2 ปีติดต่อกัน และยังเป็นการทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นครั้งที่ 3 ในรายการนี้ จาก 7 ฤดูกาลที่ผ่านมา โดย 2 ครั้งก่อนหน้านี้ (แพ้ 1 ชนะ 1)
เมื่อเทียบความสำเร็จแล้ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำได้เพียงเข้าใกล้ แต่ยังไม่เคยสัมผัสแชมป์รายการนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ขณะที่ เรอัล มาดริด แชมป์รายการนี้มาแล้ว 13 สมัย ซึ่งถือเป็นทีมที่คว้าแชมป์รายการนี้ได้มากที่สุด
เรอัล มาดริด ผลงาน 5 นัดหลังสุด
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผลงาน 5 นัดหลังสุด
สำหรับผลการแข่งขัน ปรากฏว่า เรอัลมาดริด เอาชนะแมนซิตี้ ไปได้ 3 ประตูต่อ 1
นาทีที่ 73 แมนซิตี้ ได้ประตูนำจาก ริยาด มาห์เรซ ทำให้ประตูรวม แมนซิตี้เป็น 5 -3
แต่ปรากฏว่าราชันชุดขาวเรอัลมาดริดได้ 2 ประตูรวด ในนาทีที่ 90 และ 91 จาก โรดรีโก้ทั้ง 2 ประตู ทำให้ประตูรวมเสมอกัน 5 -5 จึงต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที หรือครึ่งละ 15 นาทีเพื่อหาผู้ชนะ
แต่แล้วในนาทีที่ 95 เรอัลมาดริดได้จุดโทษ คาริมเบนเซม่า สังหารไม่พลาด ทำให้เรอัลมาดริดนำห่าง 3-1 และประตูรวม 6-5 และจบด้วยสกอร์นี้
ส่งผลให้เรอัลมาดริด ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับลิเวอร์พูล
ขอบคุณคลิปไฮไลท์จาก beIN SPORTS Thailand
ถ่ายทอดสดทาง beIN SPORTS
ติดตามผลการแข่งขันเรียลไทม์ที่ Livescore.com