รายงานข่าวระบุว่า สาเหตุที่ เหรียญ LUNA ราคาร่วงหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นผลมาจาก เหรียญ UST ซึ่งเป็น สเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) ของค่าย Terra รักษามูลค่าที่ตรึงไว้กับเงินดอลลาร์สหรัฐไม่ได้
UST ซึ่งผูกกับค่าเงินดอลลาร์ และควรจะมีมูลค่า 1 UST ต่อ 1 ดอลลาร์ ไม่สามารถรักษามูลค่าของตัวเองเอาไว้ได้ จนล่าสุดนี้ ราคาของเหรียญ UST ดิ่งลงไปสู่ระดับ 0.3 ดอลลาร์ แรงกระเพื่อมจาก UST กระทบโดยตรงต่อ LUNA ซึ่งนอกจากความเชื่อมโยงในเรื่องของผู้พัฒนาคนเดียวกันแล้ว การจะสร้าง UST ขึ้นมาได้นั้นต้องอาศัยการทำลายเหรียญ LUNA เป็นการแลกเปลี่ยน
ความเชื่อมโยงกันของ UST กับ LUNA
หากความต้องการ UST มีมากขึ้น LUNA จะถูกเบิร์นทิ้งไป (Coin Burn การเผาเหรียญ หรือการเบิร์นเหรียญ หมายถึงการลดจำนวนเหรียญออกจากระบบอย่างถาวร โดยปกติแล้วจะทำด้วยการโอนเหรียญไปยัง Wallet ที่ไม่สามารถเอาเหรียญกลับคืนมาได้) แต่หากความต้องการ UST มีน้อยลง LUNA ก็จะกลับมา
ยกตัวอย่างง่ายๆคือ การที่จะมี UST 1 เหรียญ ก็จะต้องมีการเผา LUNA ทิ้งไป 1 เหรียญเช่นกัน และเมื่อความต้องการในตลาดมากขึ้นกว่าจำนวนเหรียญ จะทำให้มูลค่าของเหรียญมีโอกาสจะเพิ่มขึ้นเยอะตามไปด้วย ทำให้เราเห็นว่าราคาของเหรียญ LUNA ขึ้นไปเยอะมากเพราะสกุลเงิน USDT มีการใช้งานมาก และมี LFG หรือ Luna Foundation Guard ที่มีการถือบิตคอยน์ไว้เป็นเงินสำรองของระบบนี้
สาเหตุที่ก่อนหน้านี้ LUNA ราคาขึ้นขณะที่เหรียญอื่นๆราคาลง
เนื่องจากช่วงเวลาที่ตลาดคริปโตอื่นๆราคาลง มีแพลตฟอร์มการออมเหรียญที่ชื่อว่า Anchor Protocol ของ Terra Chain ที่ให้ดอกเบี้ยถึง 20% คนจึงนำเงินในช่วงที่ตลาดซบเซาไปแปลงเป็น USDT เพื่อที่จะใช้ Anchor Protocol ได้ ซึ่งในขณะนั้นแพลตฟอร์มการออมเงินเป็นอะไรที่ปลอดภัยที่สุด
ทฤษฎีวิเคราะห์เรื่องเหรียญ LUNA จากทวิตเตอร์ที่มีชื่อว่า @OnChainWizard ได้พูดถึงว่า ได้มีคนทำการช็อตบิตคอยน์ คาดว่าจะเป็นวาฬหรือกองทุนก็เป็นได้ (ปลาวาฬ ในตลาดเงินดิจิทัล หมายถึง นักลงทุนที่มีเงินดิจิทัล โดยเฉพาะบิตคอยน์ ไว้ในครอบครองเป็นจำนวนมาก)
การโจมตีครั้งนี้ เกิดจากจุดอ่อนของระบบ Luna Foundation Guard หรือสกุลเงิน LFG ที่มีไว้ป้องกันแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และจึงเกิดการช็อตบิตคอยน์เพื่อโจมตีจุดอ่อนนี้ วิธีการคือ ซื้อ UST มาเป็นจำนวนมากและเมื่อแผนการช็อตเริ่ม ก็ดั้มพ์ลดราคาลงใส่ตลาดอย่างรวดเร็ว ทำให้ UST ไม่สามารถเติบโตได้ต่อไป และทำให้ความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนสูญเสียไป และทำให้คนกังวลและเทขายเพื่อจะให้ขาดทุนน้อยที่สุด
กลไกเหล่านี้ทำให้นี่คือช่องโหว่ของ LUNA เพราะหากสกุลเงิน UST และ LUNA ไม่สามารถสลับกันเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แบบ LFG จะต้องทำการขายบิตคอยน์ เพื่อนำเงินมาซื้อ UST กลับ ทำให้สกุลเงินทั้งหมดถูกโจมตีอย่างสมบูรณ์ ทั้งบิตคอยน์ LUNA และ UST ราคาร่วง
ณ วันที่ 12 พ.ค.ราคาเหรียญ LUNA ยังคงดิ่งลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน จากระดับ 86 ดอลลาร์ ลงมาเหลือเพียง 0.1-0.2 ดอลลาร์ คิดเป็นมูลค่าที่หายไปถึง 99%
หลายแพลตฟอร์มที่เปิดให้บริการเทรดคริปโตเคอร์เรนซี ได้ทยอยประกาศยุติการซื้อขาย ถอดเหรียญ LUNA และ UST ออกจากกระดานเทรดแล้ว เริ่มจาก Bittazza, Binance และ Bitkub โดยให้เหตุผลว่า เครือข่าย Terra และการซัพพลายของเหรียญ Terra (LUNA) ขาดเสถียรภาพ อาจส่งผลให้ราคามีความผันผวนสูง หากมีการเปลี่ยนแปลงจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง
สื่อในเกาหลีรายงานว่า โดควอน ผู้ก่อตั้งเหรียญ LUNA ได้รีบขอความคุ้มครองจากตำรวจอย่างเร่งด่วน หลังมีนักลงทุนพอร์ตแตกหลายรายข่มขู่เข้ามา
ทวิตเตอร์ LUNA ได้แจ้งถึงการยุติบล็อกเชนและรอการฟื้นฟู อย่างไรคนที่ถือสกุลเงิน LUNA ยังคงต้องติดตามข่าวกันต่อไปว่าโดควอน จะกู้ Terra กลับมาได้หรือไม่ หลากหลายนักลงทุนก็ถอดใจไปกับเหรียญตัวนี้เรียบร้อยแล้ว
การล่มสลายของ Terra เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดคริปโตอยู่ในช่วงขาลง โดยบิตคอยน์ร่วงกว่า 50% นับตั้งแต่ขึ้นไปแตะออลไทม์ไฮที่เกือบ 69,000 ดอลลาร์เมื่อเดือน พ.ย. 2564 ขณะที่ขาลงของ LUNA ส่วนหนึ่งมาจากประเด็นเกี่ยวกับเหรียญสเตเบิลคอยน์ UST ของ Terra ที่ตรึงราคาไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
ก่อนหน้านี้ มูลค่าของ UST ร่วงลงมาเหลือเพียง 0.29 ดอลลาร์ โดยองค์กร Luna Foundation Guard ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการเติบโตของระบบนิเวศ Terra ประกาศระดมทุน 1,000 ล้านดอลลาร์เพื่อกู้ระบบอัลกอริทึมที่ใช้ตรึงราคาของเหรียญให้คงที่ แต่นักลงทุนหลายคนเชื่อว่าจะทำไม่สำเร็จ
โดควอน เกาหลีใต้ผู้ก่อตั้ง Terra ทวีตเมื่อวันอังคาร (10 พ.ค.) ว่า เขาเกือบจะแก้ไขสถานการณ์ UST ได้แล้ว ขอให้ทุกคนรออีกนิด อดทนกันไปก่อน เพื่อฝ่าฟันวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นไปให้ได้