การทำงานแบบผสมผสาน 'ออฟฟิศ+WFH' วิถีใหม่คนทำงานในอเมริกา

ก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของ โควิด-19 คนอเมริกันนับล้าน ทำงานที่ออฟฟิศ เป็นเรื่องปกติ แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พนักงานเหล่านี้ต้องอยู่ภายใต้ การดำเนินชีวิตแบบใหม่ และส่วนใหญ่ ทำงานจากที่บ้าน ของตนเอง (Work from Home : WFH)

 

บริษัทมอร์นิง คอนซัลท์ (Morning Consult) ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลเชิงลึกด้านธุรกิจระดับโลก สำรวจความเห็นของคนในประเทศสหรัฐในประเด็นเกี่ยวกับการที่ต้องกลับไปทำงานในออฟฟิศ ได้ผลสรุปว่า

• 73% ของผู้ตอบคำถามการสำรวจ รู้สึกสบายใจที่จะได้กลับไปสถานที่ทำงาน
• 27% แสดงความเห็นว่า พวกเขาต้องการทำงานจากที่บ้าน เพราะรู้สึกว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า

 

เดบรา แคปแลน นักบำบัด จากเมืองทูซอน รัฐแอริโซนา ให้ความเห็นว่า หลายคนอาจจะประสบปัญหาความเครียด ที่จะต้องปรับตัวให้เข้ากับบรรยากาศของที่ออฟฟิศหลังจากที่เคยทำงานจากบ้าน บุคคลที่ไม่ชอบสุงสิงกับผู้อื่นอาจจะรู้สึกลำบากมากกว่าคนที่ชอบเข้าสังคม อย่างไรก็ตาม แคปแลน กล่าวว่า การกลับมาทำงานที่ออฟฟิศ คงเป็นเรื่องที่แตกต่างกันไป ตามแต่สถานการณ์ของแต่ละบุคคล

มาร์ค เจอรัล นักจิตวิเคราะห์จากรัฐนิวยอร์ก เปรียบสถานการณ์นี้ว่า เหมือนกับเด็กเล็กที่จะได้ไปโรงเรียนเป็นครั้งแรก แน่นอนว่าจะต้องมีความเครียดจากการเปลี่ยนแปลง และความกลัวที่ต้องออกไปเผชิญกับโลกกว้าง โดยความรู้สึกวิตกกังวลนี้ รวมถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับโคโรนาไวรัส อีกทั้งความกลัวว่าในวันทำงาน พวกเขาจะต้องอยู่ห่างจากครอบครัว

 

ประเด็นดังกล่าว ถือว่าสอดคล้องกับความเห็นของ อิมานี แฮร์ริส คุณแม่ลูกสอง ที่ทำงานเป็นพนักงานของรัฐบาลกลาง จากรัฐวอชิงตัน เธอเปิดเผยว่า เธอสวมหน้ากากอนามัยเวลาทำงาน (ที่ออฟฟิศ) เพราะไม่รู้สึกปลอดภัย และถ้าเลือกได้ ก็อยากทำงานที่บ้านเพราะทำงานเสร็จได้มากกว่า และยังได้ใช้เวลากับลูกๆ นอกจากนี้ การกลับไปทำงานที่ออฟฟิศยังเพิ่มภาระด้านการเงินด้วย เพราะเธอจะต้องจ้างคนดูแลลูกๆ 

 

ในเชิงจิตวิทยามองว่า การกลับไปยังสถานที่ทำงานอาจก่อให้เกิดความเหนื่อยล้า แคเรสแตน โคเนน อาจารย์ด้านการระบาดวิทยาด้านจิตเวช จากวิทยาลัยสาธารณสุข มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ให้ความเห็นว่า ในช่วงแรก ๆ การที่ต้องไปเจอผู้คนในที่ทำงานหลังจากห่างหายไปนาน อาจจะทำให้รู้สึกว่าต้องใช้พลังงานเยอะ แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเปลี่ยนแปลงทั้งด้านอารมณ์และจิตใจ ก็น่าจะดีขึ้น

พนักงานจำนวนไม่น้อยอยากที่จะทำงานแบบผสมผสาน ทั้งจากที่บ้านและที่ทำงาน ชาล็อตต์ พรินซิพาโต นักวิเคราะห์ข้อมูลด้านการเงิน จากบริษัทมอร์นิง คอนซัลท์ ชี้ว่า มีแนวโน้มที่จะเห็นกลุ่มคนที่มีอายุน้อยต้องการทำงานภายใต้บรรยากาศแบบผสมผสาน เพราะเชื่อว่าพวกเขาจะ...

• ทำงานได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
• ยืดหยุ่นมากกว่า 
• สามารถควบคุมชีวิตของตนเองได้

 

สำหรับบางคนก็มองว่า พวกเขาสามารถทำงานให้ลุล่วงได้ และรู้สึกว่าทำได้ดีกว่าโดยที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ

 

อีธาน คาร์สัน อายุประมาณ 20 ปี เป็นพนักงานบริษัทด้านเทคโนโลยี ในเมืองฟอลล์เชิร์ช รัฐเวอร์จิเนีย มองว่า การทำงานที่ออฟฟิศน่าเบื่อกว่าการทำงานที่บ้าน เพราะงานที่ทำอยู่ ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศก็ได้ และการจราจรที่ย่ำแย่ ก็ยิ่งเป็นอุปสรรคในการเดินทางเข้าไปอีก

 

อย่างไรก็ตาม บางคนเห็นแย้งว่า การอยู่ในบรรยากาศที่รายล้อมด้วยเพื่อนร่วมงาน ทำให้งานเสร็จง่ายขึ้น และมีสมาธิกับการทำงานมากกว่าตอนอยู่ที่บ้าน หนึ่งในนั้น คือ แองเจลา มอร์เจนเซน ที่ปรึกษาด้านการสื่อสารจากเมืองเบเธสดา รัฐแมริแลนด์ เธอรู้สึกโล่งใจที่จะได้กลับไปทำงานที่สำนักงานอีกครั้ง โดยบอกว่ามีความสุขที่ได้พูดคุยกับผู้คน เหมือนกับว่าได้กลับไปเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทอีกครั้ง แม้ว่าแต่ก่อนอาจจะรู้สึกเบื่อกับการประชุม แต่ตอนนี้มันช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดใหม่ ๆ ขึ้นได้

 

ในทัศนะของนักบำบัด อย่างแคปแลน เห็นว่า ผู้คนต่างตระหนักว่า การเข้าสังคมมีประโยชน์ต่อสุขภาพจิตของพวกเขา และมักจะรู้สึกดี เวลาเจอหน้าเพื่อนร่วมงานแบบจริง ๆ ที่ไม่ใช่การพูดคุยผ่านโปรแกรม Zoom

 

เจอรัล นักจิตวิเคราะห์จากนิวยอร์ก ชี้ว่า การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้คนหวนมาพิจารณา ในเรื่อง “ความสมดุล” ระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งรวมถึงจำนวนชั่วโมงทำงานที่ใช้ไปในออฟฟิศ เขากล่าวว่า ผู้คนจะไม่กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมอย่างที่เคยเห็นก่อนหน้าการเกิดโควิด-19 หลายคนจะตั้งคำถามว่า ตัวงานและบรรยากาศของงานที่ทำอยู่เหมาะสมกับตัวเองหรือไม่ และเจอรัลเชื่อว่า ความคิดเห็นเหล่านี้ จะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเห็นการทำงานลักษณะผสมผสาน ทั้งจากที่บ้านและที่ทำงาน เป็นเรื่องที่ปกติมากขึ้น

 

ที่มา: วีโอเอ