ราคาน้ำมันเบนซินในสหรัฐพุ่งทำนิวไฮรอบ 14 ปี ช่วงวันหยุด Memorial Day

31 พ.ค. 2565 | 04:42 น.
อัปเดตล่าสุด :31 พ.ค. 2565 | 11:58 น.

สมาคมยานยนต์อเมริกันระบุ ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยทั่วประเทศสหรัฐพุ่งต่อเนื่องจนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.619 ดอลลาร์สหรัฐต่อแกลลอนเมื่อวันจันทร์ (30 พ.ค.) นับเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 14 ปี ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI และเบรนท์ยังปรับขึ้นต่อเนื่องจากภาวะสงคราม

สมาคมยานยนต์อเมริกัน (AAA) ระบุว่า ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ย ทั่วประเทศสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 4.619 ดอลลาร์สหรัฐต่อแกลลอนในวันจันทร์ (30 พ.ค.) ซึ่งเป็นวันหยุดเนื่องในวัน Memorial Day เพื่อรำลึกถึงทหารอเมริกันทุกคนที่อุทิศตนรับใช้ชาติและเพื่อเชิดชูทหารผ่านศึกทุกคนที่ได้พลีชีพในสนามรบ


รายงานระบุว่า ราคาน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 2.3 เซนต์ หรือ 0.5% เมื่อเทียบกับเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และ 44.1 เซนต์ หรือ 10.6% เมื่อเทียบกับเมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา


ราคาน้ำมันเบนซินในปัจจุบันซึ่งไม่ได้คำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อนั้น พุ่งทะลุระดับสูงเป็นประวัติการณ์ครั้งก่อนที่ 4.114 ดอลลาร์ต่อแกลลอนในเดือนก.ค. ปี 2551


ณ วันจันทร์ (30 พ.ค.) ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยในพื้นที่ทั้งหมด 50 รัฐและในกรุงวอชิงตันดีซีของสหรัฐเคลื่อนไหวที่เหนือ 4 ดอลลาร์ต่อแกลลอน โดยแคลิฟอร์เนียเผชิญราคาน้ำมันเบนซินแพงที่สุดในประเทศ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 6.153 ดอลลาร์ต่อแกลลอน

ก่อนหน้านี้ AAA ระบุว่า อุปสงค์น้ำมันเบนซิน อาจพุ่งขึ้นในช่วงวันหยุดยาว Memorial Day เนื่องจากชาวอเมริกันพร้อมใจกันใช้รถในช่วงวันหยุด


"หากอุปสงค์ชะลอตัวอีกครั้งหลังวันหยุดยาวในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา การปรับตัวขึ้นของราคาค้าปลีกเชื้อเพลิงจะอยู่ในวงจำกัดเท่านั้น เนื่องจากราคาน้ำมันดิบยังคงผันผวนอย่างต่อเนื่อง" AAA ระบุในแถลงการณ์


ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) สำหรับงวดส่งมอบเดือนก.ค. ปิดที่ 117.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในตลาดนิวยอร์ก (New York Mercantile Exchange) เมื่อวานนี้ (30 พ.ค.) โดยราคา WTI ปรับตัวขึ้นประมาณ 41.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหรือ 54.8% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน