สาธารณสุขฮ่องกง แถลงวันจันทร์ (11 มิ.ย) ประกาศกำหนดให้ ผู้ป่วยโควิด-19 บน เกาะฮ่องกง ทุกคนที่ถูกสั่งกักตัว ต้องสวม กำไลอิเล็กทรอนิก ติดตามตัวเพื่อห้ามบุคคลเหล่านี้ออกจากที่พัก เริ่มตั้งแต่ศุกร์ที่ 15 ก.ค เป็นต้นไป
มาตรการดังกล่าวถอดแบบมาจากมาตรการ “โควิด-19เป็นศูนย์” ของรัฐบาลปักกิ่งที่มีเป้าหมายป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด จนกว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้ออีกในที่สุด อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวถูกมองว่าจำกัดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล สธ.ฮ่องกงจึงยืนยันว่า ทางการจะไม่ใช้กำไลอิเล็กทรอนิกนี้ติดตามประชาชนแบบเรียลไทม์อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ นายโล เฉิง-เหมา รัฐมนตรีสาธารณสุขฮ่องกงคนใหม่ ที่เพิ่งเข้ารับการแต่งตั้งให้ร่วมรัฐบาลของผู้ว่าการเกาะฮ่องกงคนใหม่ นายจอห์น ลี ประกาศว่า มาตรการนี้ บังคับใช้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกักกันตัวผู้ป่วยโรคโควิด-19ทุกคนภายในฮ่องกง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายโควิด-19เป็นศูนย์ของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่
โลระบุว่า รัฐบาลกำหนดให้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 15 ก.ค. เป็นต้นไปผู้ป่วยโควิด-19 ทุกคนที่ถูกสั่งกักตัวภายในที่พักต้องสวมกำไลอิเล็กทรอนิกติดตามตัวเพื่อป้องกันการแอบออกจากบ้านพักหรือเข้าไปสู่พื้นที่สาธารณะที่อาจทำให้เกิดการระบาดเป็นวงกว้างมากขึ้น
กฎเกณฑ์ด้านสาธารณสุขตามแบบของจีนแผ่นดินใหญ่ที่ฮ่องกงนำมาใช้นั้น กำหนดให้ประชาชนฮ่องกงต้องขึ้นทะเบียนด้วยชื่อแซ่ (สกุล) ที่แท้จริงของพวกเขา สำหรับการแทร็กกิ้ง หรือติดตามตัวผ่านแอปพลิเคชัน LeaveHomeSafe เพื่อบ่งชี้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือใครก็ตามที่กำลังอยู่ระหว่างการกักกันโรค
สื่อท้องถิ่นของฮ่องกงรายงานว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่มณฑลเหอหนานของจีนแผ่นดินใหญ่ เคยถูกกล่าวหาว่า อ้างใช้ระบบกฎสาธารณสุขเพื่อกำราบปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง แต่ทางหัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเหอหนาน ก็ตอบโต้ว่า จะไม่นำอุปกรณ์ดังกล่าวออกมาใช้โดยไม่มีเหตุผล
ทั้งนี้ การขึ้นทะเบียนด้วยชื่อและแซ่และระบบกฎสาธารณสุขที่ต้องใช้ร่วมกับแอปฯ LeaveHomeSafe จะถูกนำมาใช้ในเร็ววันนี้แต่ยังไม่ได้ระบุวันเวลาที่แน่นอน
ข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้ รัฐบาลฮ่องกงเคยออกกำไลข้อมือ (ริสแบนด์) แบ่งประเภทสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพื่อง่ายต่อการติดตาม ซึ่งมีตั้งแต่ริสแบนด์สีแดง สีดำ และแบบกระดาษ เมื่อเริ่มเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ฮ่องกงนำกำไลอิเล็กทรอนิกออกมาใช้เพื่อเฝ้าจับตากลุ่มผู้ติดเชื้อที่ถูกสั่งกักตัวภายในบ้านพักท่ามกลางการระบาดรอบที่ 5
ล่าสุดวานนี้ (11 กค.) โลยังเปิดเผยด้วยว่า ผู้ที่เดินทางขาเข้าฮ่องกงที่ผ่านกระบวนการตรวจโควิด-19 แล้วแต่อาจยังต้องถูกเฝ้าระวังต่อไปอีกระยะ คนเหล่านี้จะถูกห้ามเข้าไปในพื้นที่สำคัญ ๆ เช่น โรงพยาบาล หรือบ้านพักคนชรา และพวกเขาอาจถูกสั่งห้ามร่วมอีเวนท์หรือกิจกรรมที่ไม่มีการกำหนดให้สวมหน้ากากด้วย
“ขอยืนยันว่า มาตรการใหม่สำหรับการป้องกันโควิด-19 ที่เพิ่งออกมานี้ เรามีไว้เพื่อป้องกันผู้ติดเชื้อออกจากที่พักและเข้าสู่พื้นที่สาธารณะเท่านั้น มันไม่ใช่เป็นการใช้เพื่อติดตามแบบเรียลไทม์” นายโลยังย้ำด้วยว่า ไม่ใช่ทุกมาตรการโควิด-19 จากจีนแผ่นดินใหญ่จะมีความเหมาะสมในการนำมาใช้ภายในฮ่องกง
“นี่เป็นการใช้วิทยาศาสตร์เพื่อประสิทธิภาพและมาตรการควบคุม (โรคโควิด) ที่เที่ยงตรง ให้ผลสัมฤทธิ์สูงสุด และสามารถบรรลุได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด” โลกล่าวประโยคเดียวกันกับที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงของจีน มักนำมาใช้
“ทุกคนต่างเห็นด้วยที่ว่าใครก็ตามที่มีเชื้อโควิด-19ไม่สมควรออกจากบ้านไปข้างนอก ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อประชาชนคนอื่นๆทั้งหมด” รมว.สาธารณสุขคนใหม่ไฟแรงของฮ่องกงยังกล่าวอีกว่า “หากพวกเรายอมให้กลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีเสรีภาพ และอนุญาตให้คนเหล่านี้สามารถออกไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆได้โดยเสรี ชีวิตของคนที่ไม่ติดเชื้อโควิด-19 ย่อมถูกกระทบตามไปด้วย”
ข้อมูลล่าสุด ณ 11 ก.ค. ชี้ว่า ฮ่องกงมีผู้ป่วยโควิด-19 รายวัน ที่ 2,611 ราย และมีรายงานการเสียชีวิตเพิ่ม 7 ราย