นิวยอร์กระทึกเป็นศูนย์กลางการระบาดฝีดาษลิง ยอดผู้เสี่ยงติดเชื้อ 1.5 แสนคน

01 ส.ค. 2565 | 17:10 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ส.ค. 2565 | 21:46 น.

มหานครนิวยอร์ก ประกาศให้โรคฝีดาษลิง (monkeypox) เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขแล้ว หลังตัวเลขของผู้เสี่ยงติดเชื้อพุ่งสูงอย่างมากถึง 1.5 แสนคน ผู้บริหารนิวยอร์กซิตี้ยอมรับ มหานครแห่งนี้กำลังกลายมาเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาด

นาย เอริก อดัมส์ นายกเทศมนตรี มหานครนิวยอร์ก และนายแพทย์อัชวิน วาซาน หัวหน้าสำนักงานสาธารณสุขรัฐนิวยอร์ก ร่วมกันออกแถลงการณ์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (30 ก.ค.) ว่า นิวยอร์กซิตี้ กำลังกลายเป็น ศูนย์กลางการแพร่ระบาด ของฝีดาษลิง (ฝีดาษวานร : monkeypox) ประเมินว่า มีชาวนิวยอร์กราว 150,000 คนที่กำลังมีความเสี่ยงติดโรคฝีดาษลิงอยู่ในขณะนี้

 

สำนักข่าววีโอเอ สื่อใหญ่ของสหรัฐรายงานว่า แถลงการณ์ร่วมนี้ยังระบุถึงความพยายามของทางการนิวยอร์กในการเร่งขยายการตรวจและแจกจ่ายวัคซีน รวมทั้งบริการการรักษาให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งยังจะเร่งจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมให้เร็วที่สุด เพราะต้องมีการรับมือกับการระบาดครั้งนี้อย่างรวดเร็ว ทั้งในระดับชาติและระดับโลก

หนึ่งในสี่ของผู้ป่วยฝีดาษลิงในสหรัฐอเมริกานั้นอยู่ในรัฐนิวยอร์ก

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 ก.ค.) นาง เคธี โฮคุล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารประกาศสถานการณ์ภัยฉุกเฉินทั่วรัฐไปแล้วเนื่องจากการระบาดของฝีดาษลิง โดยมีการระบุด้วยว่า “หนึ่งในสี่ของผู้ป่วยฝีดาษลิงในสหรัฐอเมริกานั้นอยู่ในรัฐนิวยอร์ก”

 

ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลก ที่นานาประเทศต้องเฝ้าระวังกันแล้ว โดย WHO เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิง หรือ monkeypox ทั่วโลกแล้วมากกว่า 18,000 คนใน 78 ประเทศ

นายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากฝีดาษลิงแล้ว 5 คนนอกภูมิภาคแอฟริกา และ 10% ของผู้ติดเชื้อต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO

WHO ชี้ว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ หรือประมาณ 98% อยู่ในกลุ่มชายรักเพศเดียวกัน นายเกเบรเยซุสแนะนำให้คนกลุ่มนี้ลดจำนวนคู่นอนลง พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของการหลีกเลี่ยงการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มชายรักเพศเดียวกันที่อาจนำไปสู่ “การตีตราทางสังคม” หรือความเกลียดชัง ซึ่งมีอันตรายร้ายแรงไม่แพ้เชื้อไวรัส และอาจนำไปสู่การแพร่ระบาดของแนวคิดที่น่ารังเกียจนี้ด้วย

 

WHO ระบุว่า โรคฝีดาษลิงมักติดต่อกันผ่านการมีเพศสัมพันธ์ และสามารถติดต่อผ่านการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ของเหลวในร่างกาย และเสื้อผ้าหรือผ้าปูที่นอน ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะมีไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย หนาวสั่น และเหนื่อยล้า ส่วนผู้ป่วยที่อาการหนักมากอาจจะมีผื่นขึ้นและมีรอยบาดที่ใบหน้าและมือ ซึ่งสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้

เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา WHO ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็น "สถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลก" และเมื่อวันจันทร์ที่ 25 ก.ค. คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ได้อนุมัติวัคซีนอิมวาเนกซ์ (Imvanex) ของบริษัทไบโอเทคโนโลยีของเดนมาร์ก บาวาเรียน นอร์ดิก (Bavarian Nordic) ให้สามารถใช้ในเชิงพาณิชย์สำหรับการรักษาโรคฝีดาษลิงได้แล้ว