นางไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน กล่าวขอบคุณ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่สนับสนุนค่านิยมประชาธิปไตยของเธอ ขณะที่ทั้งคู่พบกันที่กรุงไทเปวันนี้ (3 ก.ค.) หลังจากที่นางเพโลซี และคณะ เดินทางถึง ไต้หวัน ช่วงค่ำวันอังคารที่ผ่านมา (2 ส.ค.)
การเยือนไต้หวันของเพโลซีครั้งนี้ ทำให้เธอเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนแรกของสหรัฐที่เดินทางเยือนไต้หวันในรอบ 25 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1997 ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับจีนที่เรียกการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐในครั้งนี้ว่า เป็นการละเมิดนโยบายจีนเดียวและเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน
ผู้นำไต้หวันกล่าวว่า เธอมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐ ทั้งในเรื่อง
นอกจากนี้ นางไช่ยังยกย่องว่า นางเพโลซีเป็นหนึ่งในมิตรแท้ที่ทุ่มเทของไต้หวัน และขอบคุณต่อการสนับสนุนที่สหรัฐมีให้กับไต้หวันในเวทีนานาชาติ พร้อมกันนี้ได้ย้ำว่า ไต้หวันเป็นพันธมิตรที่พึ่งพาได้ของสหรัฐอเมริกา และเธอเองจะทำงานต่อไปเพื่อกระชับความร่วมมือในด้านความมั่นคงกับสหรัฐ รวมทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทาน
ด้านนางเพโลซีกล่าวตอบกลับ โดยขอบคุณนางไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน สำหรับการเป็นผู้นำของเธอ และเรียกร้องให้มีความร่วมมือระหว่างรัฐสภาสหรัฐและไต้หวันเพิ่มมากขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นางเพโลซี ยังได้กล่าวแถลงต่อรัฐสภาไต้หวันในวันเดียวกัน โดยเธอกล่าวในช่วงหนึ่งว่า “เราขอยกย่องไต้หวันที่เป็นหนึ่งในสังคมที่เสรีที่สุดในโลก”
นอกจากนี้ ยังกล่าวต่อไปว่า กฎหมายใหม่ของสหรัฐที่เพิ่งผ่านการอนุมัติของรัฐสภาเมื่อเร็ว ๆนี้ มุ่งเป้าไปที่การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมการผลิตเซมิคอนดัคเตอร์หรือชิปคอมพิวเตอร์ของสหรัฐเพื่อแข่งขันกับจีน จึงเป็นโอกาสมากขึ้นสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐกับไต้หวัน
นางเพโลซี ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญเป็นอันดับที่สามรองจากตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี ยังกล่าวด้วยว่า ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐมีเป้าหมายที่จะช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมชิปคอมพิวเตอร์ของสหรัฐเองเพื่อแข่งขันกับจีนให้ได้ และด้วยเหตุนี้ สหรัฐพร้อมเปิดโอกาสด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับไต้หวันมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ นางเพโลซีไม่ใช่ประธานสภาผู้แทนฯคนแรกของสหรัฐที่ไปเยือนไต้หวัน เพราะก่อนหน้านี้ นายนิวท์ กิงกริช อดีตประธานสภาผู้แทนฯ ได้เคยเยือนไต้หวันในปี 1997 ข่าวระบุว่า การมาเยือนไต้หวันของเพโลซีครั้งนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งและวอชิงตันเสื่อมทรามลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่จีนกำลังมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ทางการทหาร และทางภูมิศาสตร์การเมืองทรงอานุภาพมากกว่าที่เคยเป็นมา
สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปนั้น คณะรัฐมนตรีไต้หวันเปิดเผยว่า ตอนนี้กองทัพไต้หวันได้ยกระดับการเตรียมความพร้อมเพื่อความปลอดภัยและเสถียรภาพโดยรอบเกาะไต้หวัน โดยท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังทางการจีนประกาศที่จะซ้อมรบต่อเนื่องเพื่อตอบโต้การเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซี