เจ้าหน้าที่ ไต้หวัน เปิดเผยว่า เครื่องบินและเรือรบของ จีน ฝึกซ้อมจำลองการโจมตีไต้หวันในวันนี้ (6 ส.ค.) เพื่อตอบโต้ต่อการที่ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวันเมื่อต้นสัปดาห์ (2-3 ส.ค.)
การเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซีในสัปดาห์นี้สร้างความไม่พอใจให้กับจีนซึ่งถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน และหลังจากนั้นจีนได้ทำการซ้อมรบครั้งใหญ่แบบใช้กระสุนจริงอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งรวมถึงการยิงขีปนาวุธข้ามกรุงไทเป เมืองหลวงของไต้หวัน
ทั้งนี้ การซ้อมรบของจีนมีกำหนดที่จะดำเนินต่อไปจนถึงเที่ยงวันอาทิตย์นี้ (7 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น
กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยในช่วงเช้าวันนี้ว่า เรือและเครื่องบินรบของจีนได้ทำการซ้อมรบในช่องแคบไต้หวัน และมีการข้ามเส้นแบ่งเขตระหว่างจีน-ไต้หวันล้ำเข้ามาในฝั่งของไต้หวันด้วย ซึ่งนับเป็นความเคลื่อนไหวที่กองทัพไต้หวันเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของการจำลองโจมตีไต้หวัน
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้กองทัพไต้หวันประกาศเตือน และส่งกองกำลังลาดตระเวนทั้งทางอากาศและเรือตรวจการณ์เข้าประจำการ รวมทั้งเตรียมพร้อมสำหรับการยิงขีปนาวุธจากฝั่งด้วย
สำหรับประเด็นที่จีนส่งเครื่องบินรบและเรือของกองทัพข้ามเส้นกึ่งกลางช่องแคบไต้หวันล้ำเข้ามาทางฝั่งของไต้หวันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (5 ส.ค.) ทางรัฐบาลไทเปได้เตือนไปยังจีนแผ่นดินใหญ่แล้วว่า รัฐบาลปักกิ่งกำลังทำให้ “สถานภาพปัจจุบัน” หรือ status quo ในบริเวณดังกล่าวสุ่มเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (People’s Liberation Army) หรือ PLA ได้ส่งเครื่องบิน 68 ลำ และ เรือ 13 ลำ ดำเนินกิจกรรมทางทหารในบริเวณช่องแคบไต้หวัน โดยวันศุกร์เป็นวันที่สองติดต่อกันที่เครื่องบินและเรือของกองทัพจีนข้ามเส้นกึ่งกลางของช่องแคบ ซึ่งในทางปฏิบัติเปรียบเหมือนเส้นแบ่งเขตแดนของทั้งสองฝ่าย
ปฏิกิริยาของจีนที่แสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจนนั้นเกิดขึ้นเมื่อน่างแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เดินทางเยือนไต้หวัน ซึ่งที่ผ่านมาพรรคคอมมิวนิต์จีนได้ประกาศชัดมาโดยตลอดว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และเคยขู่ด้วยว่า ถ้าจำเป็นก็เพร้อมที่จะใช้กำลังเข้ายึดเกาะไต้หวัน
แม้ว่าเจ้าหน้าที่ไต้หวันและสหรัฐกล่าวว่าไม่ต้องการยกระดับความตึงเครียดในบริเวณดังกล่าว แต่การซ้อมรบของจีนก็ทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆว่า อาจมีการประเมินสถานการณ์ผิดพลาดได้
โดยเมื่อวันพฤหัสฯ จีนได้ยิงขีปนาวุธเข้าไปใกล้ชายฝั่งไต้หวัน และทางการญี่ปุ่นระบุว่า มีขีปนาวุธอย่างน้อย 4 ลูก ถูกยิงข้ามเกาะไต้หวันจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีขีปนาวุธ 5 ลูกตกลงในเขตเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่น (EEZ) กระทั่งนาบฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นต้องออกมาประณามการกระทำของจีนว่า “พฤติกรรมของจีนมีผลกระทบร้ายแรงต่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค รวมทั้งของโลกด้วย”
ขณะที่วอชิงตันโพสต์ สื่อใหญ่ของสหรัฐรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐได้เรียกทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันเข้าพบ เพื่อประณามการกระทำของจีนบริเวณช่องแคบไต้หวันแล้ว
อแมนดา เซียว นักวิเคราะห์ บริษัทวิจัย International Crisis Group ในไต้หวัน ให้ความเห็นว่า จีนจะใช้โอกาสของวิกฤตนี้ในการสร้าง “ความปกติใหม่” เช่นการดำเนินกิจกรรมทางทหารข้ามเส้นกึ่งกลางช่องแคบในความขัดแย้งกับไต้หวัน
อย่างไรก็ตาม เดเรก กรอสส์แมน นักวิเคราะห์จาก Rand Corp กล่าวว่าการที่จีนกำหนดกรอบเวลาในการซ้อมรบครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า อีกไม่นานจากนี้การยั่วยุที่เกิดขึ้นน่าจะจบลง
ด้านกองทัพอเมริกันเผยว่า จะส่งเครื่องบินและเรือผ่านช่องแคบไต้หวันในอีกไม่กี่สัปดาห์จากนี้ ซึ่งสหรัฐกล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าว “เป็นการแวะปกติ” ขณะเดียวกัน จอห์น เคอร์บี้ โฆษกด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว กล่าวว่าอเมริกาจะเลื่อนการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป ภายใต้ชื่อ Air Force Minuteman III ที่วางแผนมานานออกไปก่อน เพื่อช่วยลดระดับความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในเวลานี้