ฤทธิ์ของ พายุดีเปรสชั่น “มู่หลาน” ทำให้เกิด ฝนตกหนัก ต่อเนื่องยาวนาน จนฝายดินในเมียนมาแตก น้ำทะลักไหลลงมาตาม ลำน้ำสาย สูงขึ้นจนเอ่อเข้าท่วม เมืองแฝด 'แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก' ชาวบ้านบอกหนักสุด-ท่วมสูงสุดในรอบหลาย 10 ปี หลายคนระบุ "หนักที่สุดตั้งแต่เกิดมา" สินค้าในตลาดสายลมจอยฝั่งแม่สายและตลาดท่าล้อฝั่งท่าขี้เหล็กจมน้ำ คาดมูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท มท.1 ลงพื้นที่รับฟังปัญหาเตรียมรายงานที่ประชุม ครม. ขอรัฐบาลทั้ง 2 ชาติจับมือกันวางมาตรการป้องกันที่ยั่งยืน
ผู้สื่อข่าว "ฐานเศรษฐกิจ" รายงานจาก อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ด้วยอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่น "มู่หลาน" ทำให้จังหวัดเชียงรายและในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกับจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำสายในรัฐฉานตะวันออกของเมียนมา เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องยาวนานในวันที่ 11-12 สิงหาคม จนทำให้ช่วงกลางดึกของวันที่ 12 สิงหาคม ระดับน้ำในลำน้ำสาย ณ จุดวัดระดับน้ำใต้สะพานพรมแดน วัดได้สูงกว่า 5.5 เมตร เกินกว่าจุดวิกฤตทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมชุมชนหนาแน่นริมแม่น้ำสาย ตั้งแต่ชุมชนหัวฝาย, สายลมจอย,เกาะทราย และเกาะสวรรค์
กว่า400ร้านค้าทั้งฝั่งไทย-เมียนมาถูกน้ำท่วมสูง
โดยเฉพาะบริเวณตลาดสายลมจอย ที่เป็นแหล่งช็อปปิ้งสินค้าชายแดนที่มีร้านอยู่อย่างหนาแน่นสองฝั่งถนนรวมแล้วกว่า 200 ร้านค้า เช่นเดียวกับฝั่งท่าขี้เหล็ก ในตลาดท่าล้อซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งสินค้าชายแดนที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติรู้จักกันดี มีร้านค้าตั้งอยู่ริมแม่น้ำสายกว่า 200 ร้านค้า ถูกน้ำท่วมสูงตั้งแต่ 1.0-1.5 เมตร
ทั้งนี้ มีการร่ำลือกันว่าฝายดินแห่งหนึ่งที่อยู่ลึกไปในรัฐฉานซึ่งสร้างปิดกั้นลำน้ำสาขาของลำน้ำสายเกิดแตก จนทำให้น้ำทะลักลงมามากกว่าที่เคยเป็นมาก่อน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงดึกกลางคืนของวันที่ 14 สิงหาคม ระดับน้ำได้ค่อยๆ ลดลงจนระดับเหลือเพียงประมาณ 3.0 เมตรตั้งแต่ช่วงสายของวันที่ 15 สิงหาคม
น้ำท่วมวันเดียวสินค้าจมน้ำเสียหายเกิน 30 ล้านบาท
ผู้ประกอบการเจ้าของร้านค้าในตลาดสายลมจอย รายหนึ่ง เปิดเผยว่า อันที่จริงถ้าน้ำท่วมสูงแค่ประมาณ 50-80 เซนติเมตร อย่างที่เคยเกิดเป็นประจำทุกปี สินค้าจะไม่ได้รับความเสียหายเลย เพราะผู้ประกอบการเองได้เตรียมตัวด้วยการยกสินค้าขึ้นสู่ชั้น 2 ของชั้นวางสินค้ากันไว้ทุกร้านแล้ว พอน้ำมามากมาเร็วและมาตอนกลางคืน น้ำที่ท่วมสูงเกินกว่า 1 เมตร ทำให้สินค้าที่เก็บไว้บนชั้นสองของชั้นวางจมเสียหาย โดยเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าและอีเลคทรอนิกส์เสียหายใช้การไม่ได้ทั้งหมด ส่วนสินค้าประเภทเสื้อผ้าเครื่องนุ่มห่มและผ้าห่มกันหนาวก็เปียกน้ำบ้างลอยไปตามน้ำบ้างได้รับความเสียหายกันถ้วนหน้า
"ที่ต้องบอกว่ามีสินค้าบางส่วนลอยตามน้ำ เพราะกระแสไหลแรงและเชี่ยวมาก ซัดประตูร้านค้าบางร้านจนพัง ส่วนที่ประตูไม่พังสินค้าก็จมน้ำ ถ้าจะให้ประเมินมูลค่าความเสียหาย บางร้านก็หลักหมื่น บางร้านก็หลักแสน บางร้านก็เสียหายเป็นหลักล้านบาท ตีรวมๆ ทั้งตลาดน่าจะเกินหลัก 10 ล้านบาท ส่วนทางฝั่งท่าขี้เหล็ก ซึ่งผู้ประกอบการในตลาดท่าล้อส่วนใหญ่ก็คนไทยและรู้จักกันดี ก็ยอมรับว่าสภาพไม่ต่างกับที่ตลาดสายลมจอย และน่าจะหนักกว่าสายลมจอยด้วยซ้ำ เพราะทางฝั่งโน้นไม่ได้เตรียมการยกสินค้าขึ้นสู่ที่สูงเหมือนฝั่งไทย ประกอบกับจำนวนร้านค้าในตลาดท่าล้อฝั่งท่าขี้เหล็กมีมากกว่าจำนวนร้านค้าในตลาดสายลมจอย จึงคาดว่ามูลค่าความเสียหายในตลาดท่าล้อฝั่งท่าขี้เหล็กจะมากกว่าที่ตลาดสายลมจอบไม่น้อยกว่า 1 เท่าตัว" ผู้ประกอบการเจ้าของร้านค้าในตลาดสายลมจอยกล่าวกับผู้สื่อข่าว
ผู้ประกอบการวอนขอการเยียวยาจากรัฐบาลบ้าง
ผู้ประกอบการเจ้าของร้านค้าในตลาดสายลมจอย รายนี้ยังบอกด้วยว่า ตลาดสายลมจอยถูกน้ำท่วมทุกปี หนักบ้างเบาบ้างแต่ครั้งถือว่าหนักที่สุด คนเฒ่าคนแก่บางคนบอกว่าหนักที่สุดตั้งแต่เกิดมา น้ำท่วมทุกครั้งที่ผ่านมาผู้ประกอบการไม่เคยได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากทางราชการ ซึ่งผู้ประกอบการเองก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสินค้านั้นไม่เข้าหลักเกณฑ์การเยียวยาจากทางราชการบ้างเลยหรือ ขอฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยผู้ประกอบการแม่สายที่เปิดร้านอยู่ที่สายลมจอย ก็เป็นคนไทยที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมมานาน หลักเกณฑ์ไหนที่ไม่เข้ากับสภาพความเสียหายจริงก็ควรจะได้รับการแก้ไขเพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับการช่วยเหลือเยียวบ้าง
"ที่เห็นตลาดคึกคักทุกครั้งหลังน้ำท่วม เนื่องจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้า นำสินค้ามาลดราคาขายถูกกัน จริงๆแล้วก็ได้เพียงแค่ค่ากับข้าวเท่านั้น ส่วนต้นทุน-กำไรหายไปพร้อมกับน้ำท่วมแล้ว อยากวิงวอนขอความเห็นใจและเห็นแก่ความเดือดร้อนของผู้ประกอบการร้านค้าในตลาดสายลมจอยบ้าง เพราะเดือดร้อนอย่างนี้กันมานานหลายปี ปีนึงๆเจอน้ำท่วมกันหลายๆ ครั้ง" ผู้ประกอบการเจ้าของร้านค้าในตลาดสายลมจอยเจ้าเดิมระบุ
มท.1ลงพื้นที่รับฟังปัญหาพร้อมเผยว่ายินดีสนับสนุน
เมื่อช่วงสายของวันที่ 15 สิงหาคม พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการฟื้นฟูเยียวยาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่อำเภอแม่สาย โดยมี นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย นายชัยยนต์ ศรีสมุทร นายกเทศมนตรีตำบลแม่สาย รายงานความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมและรายงานถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยรัฐมนตรีว่ากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า การแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างในส่วนที่อยู่ในอำนาจของกระทรวงมหาดไทย ขอให้ทางจังหวัด,อำเภอหรือองค์กรปกครองท้องถิ่นทำโครงการเสนอมาตามลำดับชั้นได้เลย โดยเฉพาะในเรื่องของโครงการปรับปรุงทางระบายของเทศบาลตำบลแม่สาย ซึ่งอาจจะต้องใช้วงเงินงบประมาณสูงเกินกำลังของเทศบาลทางกระทรวงจะพิจารณาให้การสนับสนุนเป็นการพิเศษ เพื่อให้สามารถบรรเทาความเดือดร้อนของชาวแม่สายได้
เตรียมรายงานต่อที่ประชุม ครม.ขอรัฐบาลไทย-เมียนมาหาทางป้องกัน
ขณะที่การแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างของลำน้ำสาย ซึ่งเป็นแม่น้ำพรมแดนระหว่างไทย-เมียนมานั้น การจะดำเนินการใดๆ จำเป็นต้องได้รับความเห็นจากรัฐบาลของทั้ง 2 ชาติเสียก่อน ซึ่งในเรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรับปากว่า จะไปรายงานความเสียหายและปัญหาอุปสรรคในการป้องกันให้กับที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้รับทราบ เพื่อที่จะได้นำไปเป็นข้อหารือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลเมียนมาในอนาตต ซึ่งเชื่อว่าหากได้มีการหารือกันอย่างจริงๆ ของรัฐบาลทั้ง 2 ชาติ การแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างขนาดใหญ่กับลำน้ำสายน่าจะเป็นทางออกที่ดีของการป้องกัน แต่เบื้องต้นทราบว่ากำลังมีการเจรจาเพื่อที่จะไปขอติดตั้งระบบการเตือนภัยในพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำสายในฝั่งเมียนมา หากติดตั้งได้ความสูญเสียก็จะน้อยลง
จังหวัดเชียงรายเร่งหาช่องทางเยียวยาเหยื่ออุทกภัย
นายภาสกร บุญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงการเยียสยาผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอแม่สาย ว่า อำเภอแม่สายมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเกือบทุกตำบล ในย่านเศรษฐกิจที่ตลาดสายลมจอยความเสียหายส่วนใหญ่ จะเกิดขึ้นกับร้านค้าและสินค้าที่อยู่ในร้าน ซึ่งจังหวัดจะประสานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธาณภัย(ปภ.) ให้พิจารณาช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบที่สามารถดำเนินการได้ แต่คงตอบไม่ได้ว่าจะได้เท่าไรยังไงหรือใครได้บ้าง ต้องรอให้ทาง ปภ.สำรวจความเสียหายแล้วน้ำเสนอข้นไปตามขั้นตอนของทางราชการ ในกลุ่มผู้บอบบางไม่ว่าว่าจะเป็นผู้ป่วยติดเตียง คนพิการ ผู้สูงอายุ จังหวัดจะประสานกับ พม.และ อปท.ให้เร่งพิจารณาให้ความช่วยเหลือโดยด่วน
เกษตรกรรอหน่อยหลังน้ำลดจะเร่งสำรวจ
"ส่วนพื้นที่ทางการเกษตรที่ถูกน้ำท่วมขังนั้น เนื่องจากตอนนี้น้ำโขงยังมีระดับสูงอยู่ น้ำจากลำน้ำต่างๆ อาทิ ที่แม่สายก็จะเป็นน้ำสาย น้ำรวก ส่วนพื้นที่อื่นจะเป็นแม่น้ำกก แม่น้ำคำ ไหลลงแม่น้ำโขงได้ยาก จึงมีเรือกสวนไร่นาถูกนำท่วมขังอยู่ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าน่าจะค่อยๆลดลง เพราะระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มว่าจะลดลงแล้ว ซึ่งในส่วนของการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับพืชผลทางการเกษตรนั้น ทางกระทรวงเกษตรฯ มีมาตรการเยียวยาที่ชัดเจนอยู่แล้ว หลังน้ำลดจังหวัดเชียงรายจะประสานกับกรมส่งเสริมการเกษตรให้เร่งสำรวจและพิจารณาจ่ายเงินเยียวยากันให้เร็วขึ้น อยากจะบอกกับประชาชนว่าจังหวัดจะพยายามทุกช่องทางเพื่อที่จะให้การเยียวยาต่างๆ ลงไปถึงประชาชนผู้ประสบอุทกภัยให้เร็วที่สุด" ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ระบุ