เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับพระราชพิธีพระบรมศพ "ควีนเอลิซาเบธที่ 2" 19 ก.ย.2565

11 ก.ย. 2565 | 04:30 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ก.ย. 2565 | 11:47 น.

พระราชพิธีพระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร จะเกิดขึ้นในวันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2565 ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ในกรุงลอนดอน

สำนักพระราชวังบักกิงแฮม ออกแถลงการณ์ว่า พระราชพิธีพระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะเกิดขึ้นที่ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ในกรุงลอนดอน ในวันที่ 19 กันยายนนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ที่ สหราชอาณาจักร จะจัดพระราชพิธีพระบรมศพของพระประมุขแห่งรัฐขึ้นที่นี่ เว้นแต่พระราชพิธีพระศพของ “ควีนมัม” (พระราชมารดาของพระองค์) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อปี 2002

 

ก่อนถึงพระราชพิธีเป็นเวลา 4 วัน หีบพระบรมศพจะประดิษฐานอยู่ภายในห้องโถงของมหาวิหารแห่งนี้ เพื่อให้สาธารณชนสามารถเข้าไปถวายแสดงความอาลัยและสักการะ

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 ขณะพระชนมพรรษา 96 พรรษา

จนถึงขณะนี้ หีบพระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งเสด็จสวรรคตอย่างสงบเมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ยังคงประดิษฐานอยู่ภายในท้องพระโรงของปราสาทบัลมอรัล ในสกอตแลนด์ เพื่อให้ข้าราชบริพาร ณ พระตำหนักแห่งนี้ ได้ถวายสักการะเป็นครั้งสุดท้าย

สื่อต่างประเทศรายงานว่า พระราชพิธีอัญเชิญหีบพระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ออกจากปราสาทบัลมอรัล จะเกิดขึ้นในเวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ (11 ก.ย.) หรือตรงกับเวลา 16.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย โดยขบวนรถไฟอัญเชิญหีบพระบรมศพ จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง มายังกรุงเอดินบะระ เมืองหลวงของสกอตแลนด์ จากนั้นจะมีการอัญเชิญไปประดิษฐานชั่วคราว ณ พระราชวังโฮลีรูดเฮาส์ ซึ่งเป็นพระราชฐานอย่างเป็นทางการในสกอตแลนด์

 

เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี พระราชธิดาในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะเสด็จพร้อมขบวนอัญเชิญหีบพระบรมศพ ตั้งแต่ปราสาทบัลมอรัลมายังพระราชวังโฮลีรูดเฮาส์ โดยหีบพระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะประดิษฐานอยู่ที่สกอตแลนด์ จนถึงช่วงเย็นของวันที่ 13 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนจะอัญเชิญมายังกรุงลอนดอนโดยทางเครื่องบิน 

 

สำนักข่าวบีบีซี สื่อใหญ่ของอังกฤษรายงานว่า เมื่อได้อัญเชิญพระบรมศพมาถึงพระราชวังบักกิงแฮมในกรุงลอนดอนแล้ว พิธีแรกที่จะจัดขึ้นจะเป็น “รัฐพิธี” (state funeral) ที่รัฐบาลอังกฤษเป็นผู้ดูแลจัดการ โดยในวันที่ 14 กันยายน จะมีการเชิญหีบพระบรมศพจากพระราชวังบักกิงแฮมไปประดิษฐาน ณ เวสต์มินสเตอร์ฮอลล์ (Westminster Hall) ห้องโถงใหญ่ซึ่งมีอายุเก่าแก่ที่สุดในกลุ่มอาคารรัฐสภาภายในพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการปกครองของรัฐบาลอังกฤษมายาวนาน เพื่อเปิดให้สาธารณชนเข้าถวายสักการะแก่พระบรมศพได้เป็นเวลา 4 วัน

 

มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ในกรุงลอนดอน

ขบวนพระบรมศพจะเคลื่อนช้า ๆ จากพระราชวังบักกิงแฮมมายังเวสต์มินสเตอร์ฮอลล์ โดยมีทหารกองเกียรติยศและบรรดาพระราชวงศ์ร่วมขบวนมาด้วย ส่วนประชาชนสามารถเฝ้ารอชมขบวนพระบรมศพนี้ได้ที่สองข้างทางใจกลางกรุงลอนดอน คาดว่าจะมีการจัดตั้งจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ เพื่อถ่ายทอดสดพิธีดังกล่าวตามสวนสาธารณะหลายแห่ง

 

หีบพระบรมศพที่คลุมด้วย ธง Royal Standard และประดิษฐาน พระมหามงกุฎ Imperial State Crown ไว้ด้านบน เมื่อมาถึงภายในพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ จะประดิษฐานพระคทาและลูกโลกประดับกางเขนไว้บนหีบพระบรมศพด้วย โดยพีบพระบรมศพจะประดิษฐานบนแท่นยกสูงที่เรียกว่า catafalque ซึ่งอยู่ภายใต้หลังคาไม้ซุงของห้องโถงใหญ่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคกลางในศตวรรษที่ 11 โดยทั้งสี่ทิศจะมีทหารรักษาพระองค์ยืนเฝ้ารักษาการณ์อยู่โดยรอบ

พระมหามงกุฎ Imperial State Crown

เมื่อประดิษฐานหีบพระบรมศพแล้ว จะมีการประกอบพิธีทางศาสนาสั้น ๆ ซึ่งกษัตริย์พระองค์ใหม่และพระบรมวงศานุวงศ์จะทรงเข้าร่วม ก่อนจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาถวายสักการะ โดยเดินเรียงแถววนรอบพระบรมศพไปคราวละหลายสิบคน

 

ทั้งนี้ สมาชิกราชวงศ์อังกฤษพระองค์ล่าสุดที่พระศพได้ประดิษฐานในสถานที่แห่งนี้ ได้แก่สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธในพระเจ้าจอร์จที่ 6 หรือ "ควีนมัม" (พระราชมารดาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2) โดยเมื่อปี 2002 (พ.ศ. 2545) มีประชาชนถึง 200,000 คน พากันต่อแถวยาวรอนานหลายชั่วโมง เพื่อที่จะได้เข้าถวายสักการะพระศพของพระองค์ในรัฐพิธีครั้งนั้น

เมื่อครั้งงานพระราชพิธีพระบรมศพ "ควีนมัม" (พระราชมารดาของควีนเอลิซาเบธที่ 2) ในปี 2002

สำหรับมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์นั้น นับเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญตลอดพระชนม์ชีพของสมเด็จพระราชินีนาถฯ โดยพระมหาวิหารแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่พระองค์ทรงมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก (พระราชพิธีขึ้นครองราชย์) ในปี 1953 และทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟิลิปที่นี่เมื่อปี 1947 ด้วย

 

ในวันประกอบพระราชพิธีพระบรมศพ วันที่ 19 กันยายนนั้น จะมีการเคลื่อนย้ายหีบพระบรมศพจากเวสต์มินสเตอร์ฮอลล์มายังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ที่อยู่ใกล้กัน โดยใช้รถปืนใหญ่เกียรติยศ (State Gun Carriage) ของราชนาวีอังกฤษ ซึ่งมีการใช้งานครั้งสุดท้ายในพิธีศพของลอร์ดเมาต์แบตเทนเมื่อปี 1979 โดยมีทหารเรือ 142 คนเป็นผู้ลากจูงรถในครั้งนั้น เหล่าพระบรมวงศ์ซึ่งอาจรวมถึงกษัตริย์พระองค์ใหม่อาจจะเสด็จพระราชดำเนินมาในขบวนนี้ด้วย คาดว่าเดวิด ฮอยล์ อธิการของมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์จะเป็นผู้นำประกอบพิธีทางศาสนา โดยมีจัสติน เวลบี อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรีเป็นผู้เทศนา และนายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ อาจได้รับมอบหมายให้อ่านบทคำสอนจากพระคัมภีร์ไบเบิล

 

หลังพระราชพิธีในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์เสร็จสิ้นลงแล้ว หีบพระบรมศพจะถูกนำไปยังซุ้มประตูชัย Wellington Arch บริเวณสวนสาธารณะไฮด์ปาร์ก เพื่อขึ้นรถบรรทุกพระศพมุ่งหน้าไปยังพระราชวังวินด์เซอร์ เพื่อประกอบพิธีขั้นสุดท้ายที่โบสถ์น้อยเซนต์จอร์จภายในบริเวณของปราสาทวินด์เซอร์

 

กษัตริย์พระองค์ใหม่และพระบรมวงศ์จะทรงเข้าร่วมขบวนเชิญพระบรมศพ โดยเสด็จพระราชดำเนินจากจัตุรัสในพระราชวังวินด์เซอร์ไปยังโบสถ์น้อยเซนต์จอร์จเพื่อประกอบพิธีฝัง โบสถ์น้อยแห่งนี้มักได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ เช่นพิธีเสกสมรสของดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ และพิธีพระศพของเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พระสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อปีที่ผ่านมา

 

หีบพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถฯ จะถูกหย่อนลงในที่เก็บพระศพของพระราชวงศ์ใต้พื้นโบสถ์ ก่อนจะมีการเคลื่อนย้ายไปไว้ยังอนุสรณ์สถานพระเจ้าจอร์จที่ 6 ซึ่งเป็นโบสถ์น้อยอีกแห่งหนึ่งภายในโบสถ์น้อยเซนต์จอร์จ

 

ประมุขของรัฐจากทั่วโลกจะเดินทางมาร่วมพระราชพิธีนี้กับบรรดาพระราชวงศ์อังกฤษ รวมทั้งมีนักการเมืองคนสำคัญและอดีตนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรเข้าร่วมด้วย

 

ข้อมูลอ้างอิง

Plans for the Queen's lying in state and funeral