ภายหลังการประกาศเดินหน้า ซื้อทวิตเตอร์ ผ่านข้อตกลงมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลาร์อีกครั้ง นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเทสลา อิงค์ ได้เปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อวันอังคาร (4 ต.ค.) ว่า การซื้อทวิตเตอร์คือการ "เร่งสร้างเอ็กซ์ (X) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ทำได้ทุกอย่าง" แต่นายมัสก์ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมมากไปกว่านี้
ความเห็นของนายอีลอน มัสก์ ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า เขากำลังพูดถึงสิ่งที่เรียกว่า "ซูเปอร์แอป" (Super App) ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศจีนและพื้นที่อื่น ๆ ของเอเชีย โดยมีบริษัทเทนเซ็นต์ ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนเป็นผู้บุกเบิก จนแอปพลิเคชัน "วีแชต" (WeChat) ได้กลายมาเป็นซูเปอร์แอปรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีผู้ใช้งานกว่า 1 พันล้านราย
"ซูเปอร์แอป" คืออะไร
"ซูเปอร์แอป" เป็นนิยามที่ใช้อธิบายถึงแอปพลิเคชันที่ใช้งานได้แบบ "ครบวงจร" บนโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่ใช้เรียกรถแท็กซี่ หรือสั่งอาหาร ไปจนถึงชำระเงินและส่งข้อความ ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเปิดหลายแอปพลิเคชัน
อ่านเพิ่มเติม: "อีลอน มัสก์"กลับลำเตรียมยื่นซื้อ"ทวิตเตอร์"ในราคาเดิม 4.4 หมื่นล้านดอลล์
สำหรับ วีแชต นั้น ผู้ใช้งานสามารถทำอะไรผ่านแอปได้บ้าง ข้างล่างนี้คือบางส่วนเท่านั้น
สาเหตุอีกประการที่หลายฝ่ายคิดว่า นายมัสก์ต้องการพลิกโฉมทวิตเตอร์ให้คล้ายกับวีแชตก็เพราะ เขาเคยเอ่ยชื่นชมวีแชตว่าเป็นแอปที่ "ยอดเยี่ยม" เมื่อครั้งพบปะกับพนักงานทวิตเตอร์ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมระบุเสริมว่า ไม่มีแอปใดนอกประเทศจีนที่จะเทียบเท่ากับวีแชต
"ผมคิดว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะสร้างสิ่งนั้นขึ้นมา คุณแทบจะใช้ชีวิตด้วยวีแชตเลยก็ว่าได้เมื่ออยู่ในจีน เพราะมันมีประโยชน์มากและช่วยเหลือคุณได้มากในการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้น ผมคิดว่า เราอาจเปลี่ยนทวิตเตอร์ให้เป็นแบบนั้น หรือแค่ใกล้เคียงก็ยังดี ถ้าทำได้คงจะเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่เลยทีเดียว" นายมัสก์กล่าว
นอกจากนี้ นายมัสก์ยังระบุด้วยว่า ต้องการให้มีผู้ใช้งานทวิตเตอร์อย่างน้อย 1 พันล้านราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 237.8 ล้านรายในช่วงสิ้นไตรมาส 2/2565
ทั้งนี้ หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญที่สุดของวีแชตคือ "วีแชตเพย์" (WeChat Pay) โดยผู้ใช้งานสามารถสแกนบาร์โคดในร้านค้า เพื่อชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือสามารถส่งเงินให้เพื่อนผ่านฟีเจอร์ดังกล่าว พร้อมกันนี้ วีแชตเพย์ยังสามารถใช้ซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่นายมัสก์เล็งเห็นว่าควรจะทำให้ทวิตเตอร์มีฟีเจอร์เหล่านั้นบ้าง