เผยเหตุสุดชุ่ย "สะพานคุชราต"ถล่ม เปิดก่อนกำหนด-รับคนขึ้นสะพานเกินลิมิต

ผลการตรวจสอบกรณี โศกนาฏกรรมสะพานข้ามแม่น้ำมักชู ในเมืองมอร์บี รัฐคุชราต ทางภาคตะวันตกของอินเดียถล่มครืนลงมาเมื่อวันอาทิตย์ (30 ต.ค.) ส่งผลให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาฉลองเทศกาลวันหยุดกันบนสะพาน ถูกเทลงสู่แม่น้ำมักชูที่ไหลอยู่เบื้องล่าง สร้างความตื่นตระหนกและอลหม่าน จนถึงขณะนี้มีผู้จมน้ำเสียชีวิตกว่า 141 รายแล้ว 

สะพานดังกล่าวซึ่งหลายคนเรียกตามชื่อเมืองว่า สะพานมอร์บีแห่งรัฐคุชราต (Morbi Bridge in Gujarat) มีอายุยาวนาน 143 ปี ความยาวสะพาน 230 เมตร สร้างในยุคที่อังกฤษเข้าปกครองอินเดียในฐานะอาณานิคมยุคปลายศตวรรษที่ 19 มีการซ่อมแซมบูรณะมาแล้วหลายครั้งในหลากยุคสมัย และครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้คือ ปิดซ่อม 6 เดือนเริ่มในเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้เอง  

รายงานข่าวระบุว่า สะพานดังกล่าวซ่อมแซมเสร็จเร็วกว่ากำหนด และมีการเปิดใช้ให้สาธารณะชนขึ้นชมความงามได้เมื่อไม่กี่วันก่อนที่สะพานจะถล่มลงมา 

ทางการคุชราตระบุว่ามีการตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมาตรวจสอบสาเหตุการถล่มของสะพานโบราณแห่งนี้แล้ว เบื้องต้นพบว่า บริษัท อจันตา แมนูแฟคเจอริง ไพรเวท จำกัด เอกชนที่ได้รับการว่าจ้างให้มาซ่อมบำรุงสะพาน ได้ทำการเปิดใช้สะพานดังกล่าวต่อสาธารณชนเร็วกว่ากำหนด โดยในสัญญาที่บริษัททำไว้กับเทศบาลเมืองมอร์บี ระบุว่าทางผู้รับเหมาต้องปิดสะพานอย่างน้อย 8-12 เดือนเพื่อการซ่อมบำรุง แต่สะพานดังกล่าวถูกเปิดใช้ก่อนกำหนดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง (หลังปิดได้เพียง 7 เดือน) เพื่อให้ทันการเฉลิมฉลองเทศกาลดิวาลี    

นอกจากนี้ ยังพบว่า บริษัทเปิดใช้สะพานโดยยังไม่ได้รับใบรับรองความแข็งแกร่งจากหน่วยงานราชการอีกด้วย 

เอ็นดีทีวี สื่อท้องถิ่นของอินเดียระบุว่า บริษัท อจันตาฯ ได้ทำสัญญาซ่อมบำรุงระยะเวลา 15 ปีกับเทศบาลมอร์บี และยังได้สัมปทานในการขายตั๋วขึ้นสะพานดังกล่าวด้วย นอกจากเปิดใช้งานสะพานก่อนเวลาที่ระบุในสัญญาแล้ว บริษัทยังฉีกทุกกฎด้านความปลอดภัย เช่นเปิดใช้โดยไม่มีใบรับรองความแข็งแรงของสะพาน และขายตั๋วให้คนขึ้นสะพานเกินจำนวนที่กำหนด อีกทั้งยังไม่มีการควบคุมจำนวนฝูงชนที่ก้าวขึ้นสู่สะพานแขวน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเอกชนที่ได้รับสัมปทานขายตั๋ว หรือฝ่ายเจ้าหน้าที่ทางการก็ตาม 

รายงานระบุว่า ขณะเกิดเหตุมีประชาชนเกือบๆ 500 คนรวมทั้งเด็กอยู่บนสะพานแขวนแห่งนั้น ทั้งๆที่ตัวสะพานสามารถรับน้ำหนักคนได้ราว 125 คน ทำให้เมื่อสายเคเบิลขาดสะบั้น ทุกคนบนนั้นจึงถูกเทลงสู่แม่น้ำมักชูที่อยู่เบื้องล่างท่ามกลางความตระหนกและสับสนอลหม่าน หลายคนสามารถยึดคว้าสายเคเบิลหรือส่วนของสะพานที่ยังไม่หล่นลงในน้ำ    

ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า เมื่อสะพานหักกลางลงแม่น้ำ ส่วนที่เหลืออยู่ก็เป็นเศษเหล็กบิดเบี้ยวโค้งลงสู่สายน้ำที่มืดมิดในคืนวันเกิดเหตุ (30 ต.ค.) 

ด้านนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ซึ่งเป็นชาวคุชราต ได้ออกมากำกับดูแลการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบโศกนาฏกรรมครั้งนี้ พร้อมประกาศจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้สูญเสีย โดยครอบครัวผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยประมาณ 5,000 ดอลลาร์ ส่วนผู้บาดเจ็บจะได้รับเงินชดเชยรายละ 600 ดอลลาร์