พลโท ดร.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ ได้ประมวลและนำเสนอข้อมูลวิเคราะห์เกี่ยวกับแนวคิดของเลขาธิการพรรคฯ สี จิ้นผิง ในการสร้างหลักประกันและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยการเน้นการศึกษา การมีงานทำ ระบบหลักประกัน และหลุดพ้นจากความยากจน กล่าวคือ
1. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษา การสร้างพลังทางการศึกษาเป็นพื้นฐานของการสร้างประเทศที่แข็งแกร่ง การศึกษาต้องมาเป็นอันดับแรก ต้องพัฒนาการศึกษาให้ทันสมัยและเป็นที่พึงพอใจของประชาชน ต้องสืบสานแนวนโยบายด้านการศึกษาของพรรคฯ ให้การสร้างคนควบคู่กับการสร้างคุณธรรมและจะต้องประสบความสำเร็จ
พัฒนาการศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพของคน สร้างความเสมอภาคทางการศึกษา ผลิตบุคลากรที่ได้รับการพัฒนาอย่างรอบด้าน ทั้งคุณธรรม ปัญญา สุขภาพ และสุนทรียภาพ ซึ่งบุคลากรเหล่านี้จะเป็นผู้สืบทอดเจตนารมของการสร้างสังคมนิยมในประเทศต่อไป
ทั้งยังต้องผลักดันการพัฒนาศึกษาขั้นพื้นฐานในเมืองและชนบนให้มาตรฐานเหมืนกัน ให้ความสำคัญแก่การศึกษาขั้นพื้นฐานในชนบทขั้นสูงสุด จัดการศึกษาก่อนวันเรียน การศึกษาของเด็กพิเศษ และการศึกษาออนไลน์ให้ดี ให้ทุกคนเข้าถึงการศึกษาระดับมัธยมปลาย พยายามให้เยาวชนทุกคนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน พัฒนาระบบการศึกษาสายอาชีพและหลักสูตรการอบรมต่างๆ มีการบูรณาการการศึกษากับอุตสาหกรรมในเชิงลึก
2. ปรับปรุงคุณภาพการจ้างงานและรายได้ของผู้คน การมีงานทำถือเป็นหลักประกันสูงสุดในชีวิต ต้องยืนหยัดในเรื่องการมีงานทำเป็นสำคัญ และยืนหยัดในหลักการความกระตืนรืนร้นในการมีงานทำ สร้างการมีงานทำอย่างมีคุณภาพมากขึ้นและในอัตราสูงสุด เปิดหลักสูตรการอบรมด้านอาชีพอย่างกว้างขวาง
แก้ไขปัญหาความขันแย้งเชิงโครงสร้างเกี่ยวกับการมีงานทำ ส่งเสริมการสร้างธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการจ้างงาน สนับสนุนด้านการบริการเกี่ยวกับการจัดหางานอย่างรอบด้าน ส่งเสริมให้บัณฑิตจบใหม่ กลุ่มคนหนุ่มสาว และเกษตรกรผู้ใช้แรงงานมีช่องทางหารายได้เพิ่มขึ้นและสร้างธุรกิจจากหลากหลายช่องทางมากยิ่งขึ้น
ขจัดอุปสรรคที่จำกัดการเคลื่อนย้ายของแรงงานและบุคลากรในสังคม ให้ทุกคนสามารถพัฒนาตนเอง โดยอาศัยความมุมานะและความเพียรพยายามของตนเองได้ พัฒนาระบบร่วมหารือและประสานงานระหว่างรัฐบาล สหภาพ และผู้ประกอบการ สร้างความสัมพันธ์แบบสมานฉันท์กับผู้ใช้แรงงาน ยึดหลักทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย
พัฒนาระบบแบ่งปันปัจจัยหลัก ส่งเสริมการแบ่งรายได้อย่างเหมาะสมและมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น สนับสนุนให้คนขยันและหาเลี้ยงชีพตามกรอบกฎหมายสามารถสร้างความร่ำรวยได้ เพิ่มจำนวนผู้มีรายได้ระดับปานกลางและเพิ่มรายได้ของผู้มีรายได้น้อย จัดระเบียบผู้มีรายได้สูงเกินไปและตัดวงจรการสร้างรายได้อย่างผิดกฎหมาย
ให้ครัวเรือนเพิ่มรายได้กันถ้วนหน้าภายใต้การพัฒนาขึ้นของระบบเศรษฐกิจ ให้ผู้ใช้แรงงานมีรายได้เพิ่มขึ้นถ้วนหน้าภายใต้การเพิ่มขึ้นของอัตราการผลิต ขยายช่องทางรายได้ของครัวเรือนและรายได้การคลัง ปฏิบัติตามการจัดสรรใหม่ตามหน้าที่ของรัฐบาล เร่งสร้างระบบบริการสาธารณะที่มีความเท่าเทียมกัน พร้อมกับลดช่องว่างด้านรายได้
3.สร้างระบบหลักประกันของสังคมให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น มีการวางแผนร่วมกันระหว่างชนบทและเมือง มีอำนาจและหน้าที่ชัดเจน มีความเหมาะสมของหลักประกัน และมีความยั่งยืน โดยรวมประชาชนทุกคนเข้าไปอยู่ในแผนของระบบหลักประกัน พัฒนาระบบประกันพื้นฐานในวัยชราของพนักงานและประชาชนทั้งในเมืองและชนบท เร่งรัดให้เกิดการวางแผนเรื่องการประกันขั้นพื้นฐานสำหรับผู้สูงอายุทั่วประเทศ
พัฒนาระบบการประกันสุขภาพขั้นพื้นฐานและระบบประกันสุขภาพสำหรับโรครุนแรงของประชาชนร่วมกันทั้งตัวเมืองและชนบท พัฒนาระบบประกันสำหรับผู้ไม่มีงานทำและผู้บาดเจ็บจากการทำงาน สร้างช่องทางบริการสาธารณะเรื่องระบบประกันสังคมทั่วประเทศ วางแผนงานระบบการให้ความช่วยเหลือทางสังคมทั้งในเมืองและชนบท พัฒนาระบบประกันคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐาน
ยึดหมั่นในนโยบายพื้นฐานของชาติว่าด้วยความเท่าเทียมระหว่างหญิงกับชาย คุ้มครองสิทธิตามกฎหมายของเด็กและสตรี พัฒนาระบบการให้ความช่วยเหลือทางสังคม ระบบสวัสดิการสังคม ระบบองค์กรเพื่อการกุศล และระบบสวัสดิการพิเศษสำหรับผู้ปฏิบัติงานที่ต้องเสียสละ เป็นต้น
เพิ่มการดูแลเอาใจใส่เด็ก สตรีและผู้สูงอายุที่ยืนหยัดใช้ชีวิตในภูมิลำเนา พัฒนากิจการด้านการสงเคราะห์คนพิการ เพิ่มการให้บริการด้านการฟื้นฟูสุขภาพของคนพิการ ยืนหยัดเรื่องการมีบ้านเพื่อการอยู่อาศัยแทนการมีบ้านเพื่อปั่นราคา เร่งรัดการสร้างระบบบ้านพักอาศัยที่มีความหลากหลายด้านอุปทาน มีหลักประกันหลายด้าน และมีการเช่าและซื้อควบคู่กันไป ให้ประชาชนทุกคนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง
4. การต่อสู้เอาชนะความยากจนอย่างเด็ดขาด การทำให้คนยากจนและคนในพื้นที่แร้นแค้นมีชีวิตที่อยู่ดีกินดีเช่นเดียวกับคนทั่วประเทศนั้นถือเป็นคำมั่นสัญญาที่พรรคฯ ได้ให้ไว้ ต้องระดมพลังของคนทั้งพรรค คนทั้งประเทศ และคนทุกสังคมเพื่อร่วมบรรเทาและขจัดความยากจนอย่างถูกวิธีและตรงเป้าหมาย
ยึดมั่นในระบบส่วนกลางเป็นผู้นำ ท้องถิ่นเป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน เพิ่มระบบความรับผิดชอบสูงสุดร่วมกันระหว่างพรรคและรัฐบาล ยืนหยัดในรูปแบบการบรรเทาความยากจนในวงกว้าง เน้นการบรรเทาความยากจนควบคู่กับการสร้างแรงบันดาลใจและการให้ความรู้ ให้เกิดความร่วมมือในเชิงลึกระหว่างภาคตะวันออกและภาคตะวันตกของประเทศ
เน้นภารกิจเอาชนะความยากจนในพื้นที่แร้นแค้นที่สุด รับประกันว่าเมื่อถึงปี 2020 (พ.ศ.2563) ภายใต้มาตรฐานที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จะทำให้ปัญหาความยากจนในชนบทของประเทศหมดไป จะไม่มีพื้นที่ใดยากจน โดยต้องขจัดความยากจนให้ได้อย่างแท้จริงและทำอย่างจริงจัง
(ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://cpc.people.com.cn/n1/2017/1028/c64094-29613660.html )