นายเหวียน ซวน ฟุก ประธานาธิบดีเวียดนาม วัย 69 ปี ยื่นใบลาออก อย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ (17 ม.ค.) ซึ่งนับเป็นการลาออกอย่างกะทันหัน หลังทำหน้าที่ดังกล่าวไม่ถึง 2 ปี ขณะที่สื่อท้องถิ่นอ้างแหล่งข่าววงในระบุเขาถูก "สั่งปลด" เซ่นการที่ไม่สามารถขจัด ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ภายในประเทศ
คณะกรรมการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามยืนยันว่า การลาออกดังกล่าวเป็นเรื่องจริง และคณะกรรมการกลางฯ ยอมรับใบลาออกของเขาแล้ว
สื่อเวียดนามรายงานว่านายเหวียนปรากฏตัวออกสื่อเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่สนามกีฬาขณะไปร่วมชมการแข่งขันระหว่างทีมชาติเวียดนามและทีมชาติไทย และในวันเดียวกันนั้น คณะกรรมการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามก็ได้มีประชุมลับลงคะแนนโหวตให้เขาออกจากตำแหน่ง ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็กล่าวได้ว่า เขาคือผู้นำประเทศคนแรกของเวียดนาม ที่ถูกกดดันให้พ้นตำแหน่งขณะที่ยังปฏิบัติหน้าที่ไม่ครบวาระ
ทั้งนี้ นายเหวียน ซวน ฟุก เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่างปี 2559-2564 และมีบทบาทสำคัญในการนำเวียดนามต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนั้น ก่อนที่เขาจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเวียดนามเมื่อเดือน เม.ย. 2564
คณะกรรมการกลางฯ เผยต่อไปว่า ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น เจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายประจำหลายราย ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายเหวียน ซวน ฟุก ประพฤติมิชอบจนสร้างความเสียหายใหญ่หลวง ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐดังกล่าวประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี 2 คน และรัฐมนตรี 3 คน โดยที่รัฐมนตรี 2 คนและเจ้าหน้าที่รัฐอีกจำนวนหนึ่ง กำลังถูกดำเนินคดีในขณะนี้
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นายเหวียน ซวน ฟุก ถูกเพ่งเล็ง และที่สุดก็เป็นเหตุให้เขาตัดสินใจลาออกและยุติบทบาททางการเมืองลง
นอกจากตำแหน่งผู้นำประเทศ และตำแหน่งต่างๆ ในพรรค คณะกรรมการกลางฯ เผยอีกว่า เขาจะพ้นจากตำแหน่งประธานสภากลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติ ที่มีวาระระหว่างปี 2564-2570 ด้วย
ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานสอดคล้องกันว่า นายเหวียน ซวน ฟุก ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีหลังมีรายงานจากสื่อของทางการว่า มีข่าวลือหลายวันก่อนหน้านี้ว่าเขากำลังจะถูกถอดถอน
สำนักข่าว VNA ของทางการเวียดนามยืนยันนายเหวียน ซวน ฟุก ไม่เพียงยื่นลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีเท่านั้น เขายังประกาศวางมือจากงานทางการเมืองทั้งหมด และเกษียณอายุตัวเอง