ChatGPT ขึ้นแท่นแอปที่มีฐานผู้ใช้งานโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์
แชตจีพีที (ChatGPT) กลายเป็นแอปพลิเคชันสำหรับผู้บริโภคที่มีฐานผู้ใช้งานโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีผู้ใช้งานประจำแตะเดือนละ 100 ล้านรายหลังเปิดตัวเพียง 2 เดือน
รายงานผลการศึกษาของธนาคาร UBS ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ (1 ก.พ.) พบว่า ChatGPT ซึ่งเป็น แชตบอท ของ บริษัทโอเพ่นเอไอ (OpenAI) ผู้เชี่ยวชาญด้าน เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) จากสหรัฐอเมริกา มีผู้ใช้งานประจำถึง 100 ล้านรายต่อเดือนในเดือนม.ค. หลังเปิดตัวให้ใช้ฟรีเพียง 2 เดือน ทำให้ ChatGPT เป็นแอปพลิเคชันสำหรับผู้บริโภคที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานผลการศึกษาของนักวิเคราะห์ซึ่งพบว่า มีผู้เยี่ยมชมที่ไม่ซ้ำกันประมาณ 13 ล้านคนใช้แอป ChatGPT ต่อวัน ในเดือนม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มจากระดับของเดือนธ.ค.2565 มากกว่า 2 เท่า
นักวิเคราะห์ของ UBS ระบุว่า จากการติดตามแวดวงอินเทอร์เน็ตมา 20 ปี ยังไม่เคยเจอแอปอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้บริโภคตัวใดที่เติบโตอย่างรวดเร็วเท่านี้มาก่อน
นอกจากนี้แล้ว ChatGPT ยังมีจำนวนผู้ใช้งานแตะระดับ 100 ล้านราย เร็วกว่าแอปอื่น ๆ อีกด้วย โดยข้อมูลจากเซนเซอร์ทาวเวอร์ (Sensor Tower) ระบุว่า ติ๊กต็อกและอินสตาแกรมต้องใช้เวลาถึง 9 เดือนและ 2.5 ปีตามลำดับในการมีผู้ใช้ถึง 100 ล้านคน ในขณะที่ ChatGPT ใช้เวลาเพียง 2 เดือน
ปัจจุบัน ChatGPT ยังเป็นแอปที่ใช้งานได้ฟรี แต่บริษัทโอเพ่นเอไอ ผู้เป็นเจ้าของแอปดังกล่าว ได้เริ่มเปิดตัวการสมัครสมาชิก 20 ดอลลาร์ต่อเดือนในวันนี้ (2 ก.พ.) เพื่อมอบบริการ ChatGPT ที่เสถียรและเร็วขึ้น ตลอดจนเปิดโอกาสให้เข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ ได้ก่อนใคร
นักวิเคราะห์เชื่อว่าความสำเร็จของ ChatGPT จะทำให้โอเพ่นเอไอมีความได้เปรียบจากการเป็นเจ้าแรกเหนือบริษัท AI อื่น ๆ และแม้การใช้งาน ChatGPT ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้มีต้นทุนการประมวลผลสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ก็ถือว่าเป็นฟีดแบ็คล้ำค่าที่จะช่วยฝึกการตอบสนองของแชตบอตตัวนี้
เกี่ยวกับบริการ "ChatGPT Plus" ที่เริ่มด้วยราคา 20 ดอลลาร์/เดือน
โอเพ่นเอไอ ได้ประกาศเปิดตัวการบริการ ChatGPT ประเภทคิดค่าบริการแบบนำร่องในวันนี้ (2 ก.พ.) ภายใต้ชื่อ แชตจีพีที พลัส (ChatGPT Plus) เริ่มต้นค่าบริการที่ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์เหนือการใช้ ChatGPT รุ่นพื้นฐานที่เปิดให้ใช้บริการได้ฟรีหลายประการ เช่น
- ลูกค้าจะสามารถเข้าใช้บริการ ChatGPT ได้แม้กระทั่งในช่วงที่มีผู้ใช้งานสูงสุด
- ทั้งยังจะได้รับการตอบสนองจาก ChatGPT เร็วขึ้น
- และมีสิทธิ์เข้าถึงลูกเล่นหรือฟีเจอร์ใหม่ ๆ ได้ก่อนใคร
ทั้งนี้ โอเพ่นเอไอ ระบุว่า ChatGPT รุ่นพื้นฐานแบบไม่เก็บค่าบริการจะยังคงเปิดให้บริการต่อไปดังเดิม ขณะเดียวกัน บริษัทก็จะเปิดให้บริการ ChatGPT Plus เฉพาะในสหรัฐอเมริกาก่อน แล้วจึงพิจารณาขยายไปยังประเทศต่าง ๆ ในอนาคตอันใกล้
นอกจากนี้ เซมาฟอร์ (Semafor) เว็บไซต์เทคโนโลยี รายงานด้วยว่า โอเพ่นเอไอ ยังเตรียมเปิดตัวแอปพลิเคชัน ChatGPT บนโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากในปัจจุบันให้บริการเฉพาะในคอมพิวเตอร์เท่านั้น
เซมอฟอร์รายงานว่า โอเพ่นเอไอจะอัปเดตระบบ ChatGPT ที่เรียกว่า GPT-4 ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของโปรแกรมดังกล่าว โดยการอัปเดตนี้ จะนำมาใช้ในระบบเสิร์ชเอนจินของไมโครซอฟท์อย่าง "บิง" (Bing) ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ปัจจุบัน โอเพ่นเอไอ ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเรื่องการทำผลกำไรจากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ChatGPT หลังไมโครซอฟท์ทุ่มเม็ดเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในบริษัทแห่งนี้
ผู้บริหารของโอเพ่นเอไอคาดการณ์ว่า บริษัทจะทำเงินได้เพียง 200 ล้านดอลลาร์ในปี 2566 นี้ ซึ่งถือเป็นเงินเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินลงทุนที่ลงไปแล้วกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์