สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (9 มิ.ย.) โดยถูกกดดันจากการที่แท่นขุดเจาะน้ำมันในแคนาดาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.12 ดอลลาร์ หรือ 1.57% ปิดที่ 70.17 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวลง 2.2% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.17 ดอลลาร์ หรือ 1.54% ปิดที่ 74.79 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวลง 1.8% ในรอบสัปดาห์นี้
เบเกอร์ ฮิวจ์ บริษัทบริการด้านน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยในช่วงบ่ายวันศุกร์ว่า แคนาดาเพิ่มแท่นขุดเจาะน้ำมัน 34 แท่นในสัปดาห์นี้ แตะระดับ 85 แท่น ขณะที่สหรัฐเพิ่มแท่นขุดเจาะน้ำมันเพียง 1 แท่นแตะ 556 แท่นในสัปดาห์นี้
บรรดาบริษัทน้ำมันได้ดำเนินการที่จะเริ่มการผลิตน้ำมันในรัฐแอลเบอร์ตาของแคนาดา หลังจากที่ปิดการผลิตน้ำมันราว 300,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงต้นเดือนพ.ค.ท่ามกลางการเกิดภาวะไฟป่าในรัฐดังกล่าว
นายวลาดิเมียร์ เซอร์นอฟ นักวิเคราะห์ของเอฟเอ็กซ์ เอ็มไพร์ซึ่งเป็นบริษัทบริการข้อมูลตลาดกล่าวว่า ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลง เนื่องจากบรรดาเทรดเดอร์ยังคงวิตกเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของอุปสงค์น้ำมันในฤดูร้อน
การประกาศของกลุ่มโอเปกพลัสเมื่อไม่นานมานี้ไม่สามารถช่วยหนุนตลาด โดยโอเปกและหุ้นส่วนประกาศเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ว่า จะปรับลดการผลิตน้ำมันไปจนถึงปี 2567 ด้วยการปรับลดการผลิตน้ำมันอีก 1.393 ล้านบาร์เรลต่อวัน
สมาชิกโอเปกพลัส 9 รายซึ่งนำโดยรัสเซียและซาอุดีอาระเบีย จะขยายเวลาการปรับลดการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบันไปจนถึงปี 2567
นอกจากนี้ ซาอุดีอาระเบียยังประกาศแผนการที่จะปรับลดปริมาณน้ำมันอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวันโดยสมัครใจในเดือนก.ค.ด้วย
ตลาดจะจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 13-14 มิ.ย. ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมครั้งนี้