"สี จิ้นผิง" พบ "บิล เกตส์" ยันจีนพร้อมมีส่วนร่วมกับทั่วโลกด้านนวัตกรรม

16 มิ.ย. 2566 | 09:57 น.
อัปเดตล่าสุด :16 มิ.ย. 2566 | 09:57 น.

"สี จิ้นผิง" พบ "บิล เกตส์" ยันจีนพร้อมมีส่วนร่วมกับทั่วโลกด้านนวัตกรรม รวมถึงการป้องกันโรคระบาด ลั่นบิล เกตส์คือเพื่อนชาวอเมริกันคนแรกที่ได้เจอในปักกิ่งปีนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้พบปะและพูดคุยกับบิล เกตส์ ประธานร่วมของมูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์แห่งสหรัฐฯ ที่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน

รายงานข่าวระบุว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กล่าวระหว่างการพบปะกับบิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ว่า จีนยินดีที่จะทำงานกับทั่วโลกในด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีและร่วมแก้ไขอุปสรรคต่าง ๆ ระดับโลก รวมถึงการป้องกันโรคระบาด
          
ด้านสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนรายงาน ว่า ปธน.สี กล่าวกับนายบิล เกตส์ว่า คือนายบิล เกตส์คือเพื่อนชาวอเมริกันคนแรกที่ผมได้เจอในปักกิ่งปีนี้
 

"ตนมักพูดเสมอว่า รากฐานของความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐอยู่ในหมู่ประชาชน เราฝากความหวังไว้กับประชาชนชาวอเมริกันอยู่เสมอ และหวังว่าประชาชนจากทั้งสองชาติจะเป็นมิตรที่ดีต่อกันต่อไปได้" 

สี จิ้นผิงพบบิล เกตส์ยันจีนพร้อมมีส่วนร่วมกับทั่วโลกด้านนวัตกรรม

ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในการพบปะดังกล่าว นายหวัง อี้ นักการทูตระดับสูงสุดของจีน และนายฉิน กัง รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน ก็ได้เข้าร่วมด้วยเช่นเดียวกัน

โดยการนั่งเจรจาร่วมกันระหว่างปธน.สีกับนายเกตส์ช่วยเพิ่มความคาดหวังว่าจะมีการพบกันของผู้นำจีนกับนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดการเยือนกรุงปักกิ่งเป็นเวลา 2 วันในวันอาทิตย์นี้ (18 มิ.ย.)

สำหรับกำหนดการเยือนของนายบลิงเกนมีเป้าหมายเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองชาติที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากที่ระหองระแหงกันจากกรณีบอลลูนสอดแนมของจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการหารือในระดับสูงเมื่อต้นปีนี้

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้มูลนิธิบิลล์และเมลินดา เกตส์และรัฐบาลเมืองปักกิ่งได้ตกลงกันที่จะบริจาคเงินคนละ 50 ล้านดอลลาร์เพื่อต่อสู้กับโรคติดเชื้อต่าง ๆ เช่น โรคมาลาเรีย โดยถ้อยแถลงของมูลนิธิเกตส์ระบุว่า เงินจำนวนดังกล่าวจะมอบให้กับสถาบันค้นคว้ายาเพื่อสุขภาพระดับโลก (Global Health Drug Discovery Institute) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ก่อตั้งในปี 2559 โดยมูลนิธิเกตส์, เทศบาลนครปักกิ่ง และมหาวิทยาลัยชิงหัว