อินโดฯฝ่าวิกฤตคุณภาพอากาศ สั่งข้าราชการในจาการ์ตาทำงานจากบ้าน 2 เดือนเต็ม

21 ส.ค. 2566 | 09:37 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ส.ค. 2566 | 09:52 น.

ปัญหาคุณภาพอากาศและหมอกควันไอเสียในอินโดนีเซียเข้าขั้นวิกฤต ล่าสุด (21 ส.ค.) รัฐบาลต้องประกาศคำสั่งให้ข้าราชการในเมืองหลวงจาการ์ตา ทำงานจากที่บ้านเป็นเวลา 2 เดือนเต็มๆ เพื่อร่วมกันลดปัญหาการปล่อยไอเสียและสร้างมลภาวะ

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานวันนี้ (21 ส.ค.) ว่า รัฐบาลอินโดนีเซีย ได้ออกคำสั่งให้ข้าราชการใน กรุงจาการ์ตา ทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) เป็นเวลา 2 เดือนนับจากนี้ เพื่อลดปัญหา มลภาวะทางอากาศ โดยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กรุงจาการ์ตาประสบปัญหามลภาวะทางอากาศอย่างหนักจนถึงขั้นที่นายโจโก วีโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียเองก็ยังมีอาการไอต่อเนื่องหลายสัปดาห์

นอกจากนี้ บริษัท IQAir บริษัทเทคโนโลยีด้านคุณภาพอากาศจากสวิตเซอร์แลนด์ ยังจัดอันดับให้จาการ์ตาเป็นหนึ่งในเมืองที่มีมลพิษทางอากาศมากที่สุดในโลกอีกด้วย

สื่อท้องถิ่นรายงานเกี่ยวกับคำสั่งของผู้ว่าการรักษาการของกรุงจาการ์ตาโดยระบุว่า ข้าราชการจำนวนครึ่งหนึ่งจะทำงานจากที่บ้านตั้งแต่วันนี้ (จันทร์ที่ 21 ส.ค.) เป็นต้นไป จากนั้น สามในสี่ของข้าราชการทั้งหมดจะเริ่มทำงานจากที่บ้านในเดือนหน้าไปจนถึงวันที่ 21 ต.ค.2566 โดยข้าราชการจะถูกเฝ้าติดตามเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ออกจากบ้านโดยไม่จำเป็นด้วย

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปัญหามลพิษของอินโดนีเซีย โดยเฉพาะในเขตเมืองหลวงอย่างจาการ์ตา อาจส่งผลกระทบต่อการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งจะจัดขึ้นที่นั่นในวันที่ 5-7 ก.ย. นี้

สภาพหมอกควันพิษในกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย

ทางรัฐบาลอินโดนีเซียเอง ก็กำลังพิจารณามาตรการต่าง ๆ เพื่อจัดการกับปัญหามลพิษ เช่น การบังคับสวมหน้ากากอนามัย การจัดเก็บภาษีมลพิษ และเพิ่มการกำกับดูแลยานพาหนะและโรงงานซึ่งเป็นตัวการใหญ่ในการปล่อยไอเสียและสร้างมลภาวะทางอากาศ ขณะที่ฤดูแล้งที่ยาวนาน ก็ยิ่งทำให้ปัญหาหมอกควันพิษเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม

ด้านนายซานเดียกา อูโน รัฐมนตรีการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า นับจนถึงขณะนี้ ปัญหาหมอกควันพิษในกรุงจาการ์ตาได้ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจถึง 21.5 ล้านล้านรูเปีย หรือราว 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา รายงานคุณภาพอากาศรายวันแบบเรียลไทม์ที่จัดทำโดยบริษัทเทคโนโลยีด้านคุณภาพอากาศ ไอคิวแอร์ (IQAir) ในสวิตเซอร์แลนด์ ได้ระบุว่า กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของประเทศ อินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากรมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ครองแชมป์เมืองที่มีมลพิษทางอากาศ สูงที่สุดในโลกในวันดังกล่าว โดยที่ผ่านมา กรุงจาการ์ตาที่มีประชากรมากกว่า 10 ล้านคน ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของเมืองที่มีอากาศสกปรกที่สุดในโลกทุกๆวันมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 และล่าสุดวันนี้ (21 ส.ค.) จาการ์ตา อยู่ในอันดับเมืองที่อากาศสกปรกมากที่สุดเป็นอันดับเจ็ดของโลก

ดูรายงานการจัดอันดับคุณภาพอากาศของเมืองใหญ่ในโลก คลิกที่นี่ 

นายนาธาน โรสแตนดี ผู้จัดทำแอปพลิเคชัน Nafas Indonesia ซึ่งเป็นแอปฯที่ให้ข้อมูลด้านคุณภาพอากาศในอินโดนีเซีย กล่าวว่า ชาวอินโดฯ ที่สูดดมหมอกควันพิษทุกวันมีความเสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจ โรคหอบหืด รวมทั้งอาจส่งผลต่อพัฒนาการสมองและสุขภาพจิตของเด็ก ๆ ด้วย

ที่ผ่านมา ประชาชนในจาการ์ตาต่างตำหนิวิจารณ์การจราจร ควันจากโรงงานอุตสาหกรรม และโรงผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน ว่าเป็นสาเหตุของมลพิษทางอากาศ และเมื่อปี 2564 มีประชาชนบางกลุ่มได้รวมตัวกันยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อขอให้มีคำสั่งไปยังรัฐบาลอินโดนีเซียให้ใช้มาตรการควบคุมมลพิษอย่างเข้มงวดมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน