วันที่ 18 ตุลาคม 2566 กระทรวงการต่างประเทศ อัพเดตสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในอิสราเอล โดยนางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกเมื่อคืนนี้ (วันที่ 17 ต.ค.2566 )มีรายงานข่าวการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่ รพ. อัล-อาห์ลี อัล-อาราบี (Al-Ahli al-Arabi) ในฉนวนกาซา ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างรุนแรง มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยรายและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ขอแสดงความเสียใจอย่างใหญ่หลวงต่อเหตุการณ์การสูญเสียครั้งนี้
นางกาญจนา กล่าวเพิ่มเติมว่า การช่วยเหลืออพยพแรงงานไทยในอิสราเอลขณะนี้ ได้ดำเนินเที่ยวบินอพยพแล้ว 7 เที่ยวบิน ขนส่งคนไทยจำนวน 926 คนกลับประเทศไทย โดยเที่ยวบินล่าสุดได้เดินทางถึงไทยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (วันที่ 17 ต.ค.2566 ) ด้วยสายการบิน EL AL พร้อมคนไทย 162 คน และเมื่อเช้านี้ (วันที่ 18 ต.ค.2566 ) คนไทยอีก 266 คน ได้เดินทางถึงไทยโดยเที่ยวบินของสายการบินไทย
อนึ่ง จำนวนคนไทยที่ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์กลับไทยกับจำนวนคนไทยที่เดินทางกลับไทยจริงมีความแตกต่างกันเนื่องจากหลายปัจจัย อาทิ ผู้ลงทะเบียนตัดสินใจไม่เดินทางกลับหรือไม่สามารถเดินทางมายังสนามบินได้ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ จะติดตามต่อไป
ส่วนแผนงานอพยพแรงงานไทยในอิสราเอลในวันที่ 19 ต.ค. 2566 จะมีเที่ยวบินอพยพคนไทยอีก 2 เที่ยวบิน เดินทางถึงไทย
ทั้งนี้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้จัดให้คนไทยเข้าศูนย์พักพิงโรงแรม David InterContinental Hotel แล้วจำนวน 593 คน (สถานะ ณ วันที่ 18 ต.ค. 2566 ) เพื่อเตรียมเดินทางกลับไทยต่อไป ทั้งนี้ ได้จัดให้คนไทยพักในโรงแรมทั้งหมด 7 แห่ง
โดยเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประสานงานกับนายจ้างและทางการอิสราเอลและยังได้เดินทางไปรับคนไทยในพื้นที่มายังศูนย์พักพิงต่าง ๆ ทั้งนี้ ขอขอบคุณพี่น้องคนไทยในพื้นที่ด้วยที่ได้มีส่วนช่วยเหลือพี่น้องแรงงานไทย
นางกาญจนา กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางการไทยเร่งจัดเที่ยวบินตรงกรุงเทลอาวีฟ-กรุงเทพฯ เพื่อขนส่งคนไทยกลับประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.เป็นต้นไป ได้เตรียมจ้างเหมาเครื่องบินขนาดใหญ่เพื่อรับคนไทยกว่า 600 คนต่อวันจากกรุงเทลอาวีฟไปยังเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเปลี่ยนเครื่องเดินทางกลับไทยด้วยเที่ยวบินจากกองทัพอากาศ การบินไทย นกแอร์ แอร์เอเชีย และไทยไลออนแอร์
"สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ ได้ประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นและพร้อมที่จะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางเพื่อเปลี่ยนเที่ยวบินและดำเนินงานเอกสารที่เกี่ยวข้องสำหรับเดินทางกลับไทยต่อไป คาดว่าภายในสิ้นเดือน ต.ค. หรือต้นเดือน พ.ย. จะสามารถนำคนไทยกลับประเทศได้ตามที่เคยกำหนดไว้"
ส่วนในเรื่องการขออนุญาตเส้นทางบินผ่านน่านฟ้า ทางการไทยไม่ได้ขออนุญาตทำการบินผ่านน่านฟ้าของประเทศที่มีความเสี่ยงที่จะไม่อนุญาตเพื่อลดความเสี่ยงและเลี่ยงความล่าช้าในกระบวนการขออนุญาตฯ เนื่องจากต้องการให้พี่น้องคนไทยได้เดินทางออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยและกลับประเทศไทยโดยเร็ว
นางกาญจนา กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอเตือนพี่น้องคนไทยเรื่องการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงและอาจพิจารณางดเว้นไปก่อน โดยขอให้ติดตามมาตรการของหน่วยงานท้องถิ่นและเฟซบุ๊คของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทุกหนแห่งสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม