นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย พล.อ.ท.วชิระ เริงฤทธิ์ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด และนายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการ กระทรวงแรงงาน และคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจข้าราชการ และลูกจ้าง สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล รวมทั้งพบปะกับแรงงานไทยและชุมชนไทยในกรุงเทลอาวีฟ จำนวน 28 คน เพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ และชีวิตการทำงาน เมื่อวันพุธ (29 พ.ย.) เวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศอิสราเอล
โดยรองนายกฯ ได้ขอให้แรงงานไทยทุกคนโชคดีในการทำงานและการใช้ชีวิตในต่างประเทศ พร้อมแจ้งว่าตนเองได้พูดคุยกับประธานาธิบดีอิสราเอลแล้ว ซึ่งประธานาธิบดีรับปากว่าจะช่วยเหลือตัวประกันคนไทยที่เหลือ ซึ่งคาดว่าจะมี 9 คน ให้กลับมาได้อย่างปลอดภัย ส่วนเรื่องการเยียวยา รัฐบาลดำเนินการอย่างเต็มที่ แต่ส่วนตัวไม่อยากให้แรงงานไทยเสี่ยงเข้าไปทำงานในพื้นที่สีแดงอีก
จากนั้น นายปานปรีย์ได้ผูกข้อมือเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แรงงาน พร้อมตรวจเยี่ยมที่ทำงานของสถานเอกอัครราชทูตไทย รวมทั้งห้องหลบภัยของสถานทูตที่ใช้เวลาเกิดเหตุไม่สงบด้วย
รองนายกฯ และรัฐมนตรีต่างประเทศ ยังได้โพสต์ข้อความผ่าน X (Twitter) ใจความระบุว่า ตื้นตันใจและดีใจเป็นที่สุด ที่ได้เจอพี่น้องคนไทยที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทุกคนมีกำลังใจดี พร้อมเดินทางกลับบ้านแล้ว
ทั้งนี้ พี่น้องแรงงานไทยที่ได้รับการปล่อยตัว 17 คนจะเดินทางกลับจากอิสราเอลกลับถึงไทยเป็นชุดแรกพร้อมกับคณะของนายปานปรีย์ โดยสายการบิน El Al เที่ยวบินที่ LY 081 กำหนดถึงประเทศไทยในวันนี้ ( 30 พ.ย.) เวลาประมาณ 14.55 น. (ช้ากว่ากำหนดการเดิม 3 ชั่วโมง) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ