ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา ประกาศเดินหน้า โครงการปฏิวัติระบบรถไฟในสหรัฐ ด้วยโครงการลงทุนมูลค่า 8,200 ล้านดอลลาร์ (กว่า 2.9 แสนล้านบาท) ครอบคลุมโปรเจคท์ใหญ่ สร้าง เส้นทางรถไฟความเร็งสูงสายแรก ในประวัติศาสตร์ของประเทศ เชื่อมเมืองลอสแองเจลิสกับลาสเวกัส
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า การเดินทางด้วยรถไฟไม่เป็นที่นิยมใน สหรัฐอเมริกา มากนักเมื่อเทียบกับการเดินทางด้วยรถยนต์และเครื่องบิน เนื่องจากเป็นทางเลือกการเดินทางที่ช้ากว่า นานๆ มาที และไม่ทั่วถึง โดยหลายพื้นที่ก็ไม่มีรถไฟให้บริการ
แต่เมื่อวันศุกร์ (8 ธ.ค.) ประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งนิยมชมชอบการเดินทางด้วยรถไฟ และในอดีตสมัยที่ยังทำงานเป็นวุฒิสมาชิก ก็มักจะเดินทางด้วยรถไฟระหว่างเมืองเดลาแวร์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขากับกรุงวอชิงตัน ซึ่งเป็นที่ทำงานอยู่เสมอๆ กระทั่งได้รับฉายาว่า "แอมแทร็ก โจ" (Amtrak Joe โดยแอมแทร็กนั้นเป็นชื่อบริษัทผู้ให้บริการรถไฟรายใหญ่ในสหรัฐ) เขาได้ประกาศขณะเยือนเมืองลาส เวกัส ระหว่างการแถลงเรื่องการจัดสรรงบประมาณว่า จะจัดสรรงบก้อนใหญ่เพื่อยกเครื่องการขนส่งทางราง
"แผนนี้จะนำพาประเทศของเรากลับสู่เส้นทางที่ควรจะเป็น ด้วยระบบรถไฟที่รวดเร็วที่สุด ปลอดภัยที่สุด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลก” ไบเดนกล่าว
ทั้งนี้ ข่าวระบุว่า รัฐบาลของไบเดนคาดหวังว่าจะสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เชื่อมระหว่างเมืองลาสเวกัสกับลอสแองเจลิส ให้เสร็จภายในปีค.ศ. 2028 (พ.ศ. 2571) โครงการนี้มีเป้าหมายลดระยะเวลาการเดินทางระหว่างสองเมืองใหญ่ดังกล่าว ซึ่งหากเดินทางด้วยรถยนต์ในปัจจุบันต้องใช้เวลา 5 ชั่วโมง แต่การเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงจะลดเวลาเหลือเพียง 2 ชั่วโมง 40 นาที เป้าหมายใหญ่กว่านั้น คือการเพิ่มจำนวนผู้โดยสารของระบบขนส่งทางรางของอเมริกาเป็นสองเท่าภายในปี 2040
การประกาศแผนยกเครื่องระบบขนส่งทางรางของปธน.ไบเดน นับเป็นการตอกย้ำความจริงที่ว่า จีนซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกานั้น ปัจจุบันอ้างว่ามีขบวนรถไฟที่แล่นด้วยความเร็วมากกว่า 220 ไมล์ต่อชั่วโมง(350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ให้บริการประชาชนแล้ว
ปธน.โจ ไบเดน ยังใช้โอกาสนี้โจมตีนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีซึ่งประกาศจะลงแข่งขันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า (2024) ว่า ตอนที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่งผู้นำของประเทศกลับไม่ได้ใช้โอกาสนั้นปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆให้ดี
ทั้งนี้ โครงการยกเครื่องระบบขนส่งทางรางครั้งใหญ่ นับเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ปธน.ไบเดน ผลักดันมาเป็นอันดับแรกๆ หลังเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นาน รัฐบาลของเขาจัดสรรงบประมาณ 66,000 ล้านดอลลาร์สำหรับการยกเครื่องระบบรถไฟขนส่งผู้โดยสาร นับเป็นการจัดสรรงบประมาณก้อนใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับการพัฒนากิจการเดินรถไฟ นับตั้งแต่ที่มีการก่อตั้งบริษัทแอมแทร็ก (Amtrak) ผู้ให้บริการรถไฟขนส่งผู้โดยสารระหว่างเมืองและระหว่างรัฐต่างๆ ในปี 1971
ลอรา เมสัน รองประธานบริษัทแอมแทร็กกล่าวกับเอเอฟพีว่า แผนผลักดันของรัฐบาลไบเดนจะทำให้เกิดการปฏิรูประบบรถไฟขนส่งผู้โดยสารในสหรัฐอเมริกาอย่างแท้จริง เพราะงบก้อนใหญ่นี้จะทำให้เกิดเส้นทางเดินรถไฟสายใหม่ๆและต่อขยายเส้นทางสายต่างๆที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน ยกระดับงานด้านบริการ ปรับปรุงสถานีทั้งหลาย และสร้างขบวนรถไฟสมัยใหม่ที่แล่นได้เร็วขึ้น
สำหรับเส้นทางรถไฟความเร็วสูงระหว่างเมืองลอสแองเจลิสและลาสเวกัส นั้นจะได้รับงบสนับสนุนจากรัฐบาลกลางประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ลอสแองเจลิสไทม์ส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า โครงการดังกล่าวน่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จเพื่อเปิดใช้ทันในปี 2028 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ลอสแองเจลิสจะเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิค 2028
บริษัทไบรท์ไลน์ (Brightline) ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนและเป็นผู้สร้างเส้นทางรถไฟเชื่อมระหว่างเมืองไมอามีและออร์แลนโดในรัฐฟลอริดาเสร็จเรียบร้อยแล้วในปีนี้ เป็นบริษัทที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงคมนาคมสหรัฐให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการประวัติศาสตร์สร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงลอสแองเจลิส-ลาสเวกัส ระยะทาง 218 ไมล์ (ประมาณ 350.8 กิโลเมตร) โครงการนี้
รถไฟซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าจะสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดถึง 200 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือราว 321 กม./ชั่วโมง งบประมาณการก่อสร้างส่วนหนึ่งได้รับการจัดสรรให้โดยรัฐบาลกลาง และส่วนที่เหลือคาดว่าจะมาจากทุนภาคเอกชนและการออกพันธบัตร คาดว่าการก่อสร้างจะเริ่มต้นได้ในช่วงต้นปีหน้า
ข้อมูลอ้างอิง