สื่อต่างประเทศรายงานว่า แผนกกงสุลของสถานทูตอิหร่าน ในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย ถูกถล่มจนราบคาบเมื่อวันจันทร์ (1 เม.ย.) โดยสื่ออิหร่านและซีเรียต่างรายงานว่า การโจมตีทางอากาศ ครั้งนี้เป็นฝีมือของ อิสราเอล ซึ่งหากเป็นความจริงก็จะแสดงให้เห็นถึงการยกระดับ ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง อย่างชัดเจน
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของเลบานอนกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีครั้งนี้ คือ นายโมฮัมหมัด เรซา ซาเฮดิ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการอาวุโสของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม หรือ Islamic Revolutionary Guards Corps (IRGC) ขณะที่สถานีโทรทัศน์ของอิหร่านรายงานว่า มีนักการทูตอิหร่านหลายคนถูกสังหารในเหตุการณ์นี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่เกิดเหตุในเขตเมสเซห์ของกรุงดามัสกัสว่า เห็นควันลอยขึ้นมาจากซากของอาคารแห่งหนึ่งที่ถูกถล่มจนราบเรียบ โดยมีรถกู้ภัยฉุกเฉินจอดอยู่ที่ด้านนอก และมีธงชาติอิหร่านติดเสาที่ปักอยู่ที่ซากดังกล่าว
ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายฮอสเซน อามีร์ อับดอลลาเฮียน รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ได้ออกมาเรียกร้องวานนี้ (1 เม.ย.) ว่า โลกไม่ควรนิ่งเฉยกับเหตุการณ์ที่อิสราเอลโจมตีสถานทูตอิหร่านในเมืองดามัสกัส ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้อิหร่านต้องสูญเสียบุคลากรจำนวนมาก
รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านย้ำว่า ผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำก่อเหตุทางอาญาครั้งนี้ ต้องถูกตอบโต้อย่างหนักหน่วงและสาสม
“นี่คือการละเมิดทุกพันธะสัญญาและอนุสัญญาระหว่างประเทศทั้งหมดที่มีอยู่” นายอับดอลลาเฮียนยังกล่าวถึงผู้นำอิสราเอลด้วยว่า
"เนทันยาฮูสูญเสียสมดุลทางอารมณ์และจิตใจไปหมดแล้ว เนื่องจากความล้มเหลวอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลอิสราเอลในกาซา พวกเขาไม่อาจบรรลุเป้าหมายแห่งความทะเยอทะยาน” รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านกล่าวถึงชาวอิสราเอลว่าเป็นพวกไซออนิสต์ (ซึ่งอุดมการณ์ของพวกที่มีแนวคิดลัทธิไซออนิสต์ก็คือ ผู้ที่นิยมในอุดมการณ์ส่งเสริมให้ชนชาติยิวกลับคืนสู่ปาเลสไตน์ เพื่อการสร้างชาติอิสราเอล)
ทั้งนี้ นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เป็นผู้ประกาศทำสงครามกับนักรบฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ในฉนวนกาซามาเป็นเวลาเกือบ 6 เดือนแล้ว
ขณะเดียวกัน นายนาสเซอร์ คานานี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน ได้ออกมาประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในประเทศซีเรียครั้งนี้ โดยกล่าวว่า อิหร่านขอใช้สิทธิในการดำเนินการตอบโต้ และจะตัดสินใจในเรื่องรูปแบบการตอบโต้และการลงโทษผู้รุกรานหลังจากนี้
รายงานข่าวอ้างอิงการให้สัมภาษณ์ของนายฮอสเซน อัคบารี เอกอัครราชทูตอิหร่านในกรุงดามัสกัสว่า อาคารสถานกงสุล 5 ชั้นในเขตล้อมรั้วของสถานทูต ถูกโจมตีด้วยฝูงเครื่องบินขับไล่ F-35 ของอิสราเอล ที่ยิงขีปนาวุธ 6 ลูกเข้าใส่ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เผยถึงแหล่งที่มาของข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องบินเหล่านี้ ทูตอิหร่านเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ อย่างน้อย 5 ราย ซึ่งรวมถึงบุคลากรทางการทหาร 3 นาย อิหร่านประกาศว่า จะ"ตอบโต้อย่างหนักหน่วง" ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีดังกล่าว
ทั้งนี้ ณ บริเวณจัตุรัสปาเลสไตน์ ในกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อค่ำวันจันทร์ (1 เม.ย.) ผู้คนได้มารวมตัวชุมนุมจำนวนหลายร้อยคน พวกเขาโบกธงชาติอิหร่านและปาเลสไตน์ ตะโกนเรียกร้องให้แก้แค้น โดยใจความระบุว่า "ไปตายซะ อเมริกา" และ "ไปตายซะ อิสราเอล" นอกจากนี้ พวกเขายังเผาธงชาติอิสราเอลและธงชาติสหรัฐด้วย
ขณะที่รัสเซีย คู่ปรับรายใหญ่ของสหรัฐ ได้แสดงปฏิกริยาเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันจันทร์ (1 เม.ย.) โดยกล่าวหาว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลที่โจมตีสถานกงสุลอิหร่านในซีเรีย เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้
อย่างไรก็ดี อิสราเอลปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ และโฆษกของกองทัพอิสราเอลกล่าวเพียงว่า “เราไม่ขอให้ความเห็นต่อรายงานของสื่อต่างชาติ”