ใน การประชุมสุดยอด (Summit Meeting) สามฝ่ายระหว่าง ผู้นำเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีน ที่กรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้เมื่อวันจันทร์ (7 พ.ค.) ซึ่งเป็นการประชุมสุดยอดครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี หรือตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2019 เป็นต้นมา ทางเกาหลีใต้ซึ่งเป็นเจ้าภาพ มีนาย ยุน ซุก-ยอล (Yoon Suk Yeol) ประธานาธิบดี เข้าร่วมการประชุม ขณะที่ฝ่ายจีนและญี่ปุ่นมีนายกรัฐมนตรีเข้าร่วม คือนายหลี่ เฉียง (Li Qiang) และนายฟุมิโอะ คิชิดะ (Fumio Kishida) ตามลำดับ
การประชุมคร้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางบริบทที่จีนกำลังเผชิญความตึงเครียดทางการค้าทั้งกับสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป (อียู) การหันมาจับมือสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่นของจีนในครั้งนี้ จึงถูกมองว่าเป็นการหาทางออกที่เหมาะสมลงตัว โดยนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า ทั้งสามประเทศต้องปฏิเสธการตั้งกำแพงกีดกันทางการค้า และต้องยึดมั่นต่อกระแสโลกาภิวัตน์
"เราต่างควรต้องมองกันในฐานะหุ้นส่วนที่แสวงหาโอกาสในการพัฒนาร่วมกัน" นายหลี่ เฉียง กล่าว และยังเรียกร้องเกาหลีใต้และญี่ปุ่นซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกา ให้ต่อต้านการนำประเด็นด้านเศรษฐกิจและการค้ามาเป็นเครื่องมือเล่นเกมทางการเมือง หรือนำมาเป็นประเด็นเชื่อมโยงกับความมั่นคงระหว่างประเทศ
ในส่วนหนึ่งของถ้อยแถลง นายกฯจีนยังเชิญชวนให้เกาหลีใต้และญี่ปุ่น ปฏิเสธลัทธิกีดกันทางการค้า และการสร้างเหตุปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิต
นายหลี่ เฉียง ยังกล่าวถึงความสำคัญของการลงทุนโดยภาคเอกชน โดยเขาระบุว่า บริษัทต่างชาติคือกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจจีน และจีนก็จะเปิดประตูกว้างรับบริษัทต่างชาติ รวมทั้งบริษัทเกาหลีและบริษัทญี่ปุ่น ที่มั่นใจได้ว่า จีนจะขยายช่องทางการเข้าถึงตลาดจีนและเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีสำหรับการทำธุรกิจในประเทศจีน
ทั้งนี้ จีนเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด ทั้งสำหรับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น
แถลงการณ์ร่วม (joint declaration) ที่ได้รับการลงนามรับรองโดยผู้นำทั้งสามประเทศ และมีการเผยแพร่หลังการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ระบุถึงความร่วมมือในด้านหลักๆ ได้แก่
นอกเหนือจากการประชุมในระดับผู้นำแล้ว กิจกรรมคู่ขนานการประชุมซัมมิตครั้งนี้ ยังเป็นการจัดประชุมผู้นำทางธุรกิจซึ่งมีผู้บริหารของบริษัทจากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีน เข้าร่วมมากกว่า 200 ราย เพื่อสนับสนุนการค้า การจับคู่ธุรกิจ และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายซัพพลายเชนในภูมิภาค
ข้อมูลอ้างอิง