สื่อนอกเกาะติด “ฆาตกรรม 6 ศพ” โรงแรมดังย่านราชประสงค์

16 ก.ค. 2567 | 15:32 น.
อัพเดตล่าสุด :16 ก.ค. 2567 | 16:44 น.

เหตุการณ์ชาวต่างชาติเสียชีวิต 6 ศพในโรงแรมดังย่านราชประสงค์ ได้รับความสนใจจากสื่อต่างประเทศหลายสำนักโดยมีการเกาะติดรายงานข่าวอัปเดตสถานการณ์เป็นลำดับตั้งแต่ช่วงเย็นวันอังคาร (16 ก.ค.)

ในเบื้องต้นมีเพียงรายงานว่า พบศพชาวต่างชาติ 6 ราย ใน โรงแรมดังใจกลางกรุงเทพฯ จากนั้นจึงค่อยๆเผยรายละเอียดออกมาเป็นลำดับ สำนักข่าว Channel News Asia หรือ CNA สื่อใหญ่สิงคโปร์ที่มีผู้สื่อข่าวในประเทศไทยรายงานว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 6 รายเป็นแขกที่เข้าพักในโรงแรมดังกล่าว และทั้งหมดพบเป็นศพภายในห้องพักของโรงแรมย่านราชประสงค์ ในเบื้องต้น ยังไม่มีการยืนยันสาเหตุการเสียชีวิต ต่อมาในวันเดียวกัน (16 ก.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนและคลี่คลายคดี เพื่อควบคุมสถานการณ์ ไม่ให้เกิดผลกระทบและอันตรายต่อประชาชน ขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวด้วย

ด้าน สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ประสงค์เอ่ยนามว่า ชาวต่างชาติที่เสียชีวิตเป็นชาวเวียดนาม และสาเหตุการเสียชีวิตก็ไม่ใช่การยิงกันดังที่มีข่าวในช่วงแรกๆ “ไม่มีร่องรอยการยิงกัน” เจ้าหน้าที่บอกกับรอยเตอร์ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดมากกว่านั้น

 

หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวก็ไปรวมตัวกันแถวหน้าโรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ ซึ่งบริเวณนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนาย แต่ในขณะนั้นก็ไม่ได้มีการยืนยันว่านี่คือสถานที่ที่พบศพผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ นายกฯ เศรษฐายังปรากฏตัวลงพื้นที่ที่โรงแรมดังกล่าวด้วย

นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่และแถลงข่าวด้วยตนเอง (ภาพข่าวรอยเตอร์)

โรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ (ภาพข่าวรอยเตอร์)

ฝ่ายสืบสวนได้มาถึงที่เกิดเหตุและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าตรวจสอบ (ภาพข่าวรอยเตอร์)

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวเช่นกัน ระบุว่า มีการสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว โดยตำรวจมุ่งไปที่ประเด็นการใช้ “สารพิษ” (toxic substance) ที่อาจจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต

ทั้งนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ยังได้รายงานอ้างอิงข่าวเนชั่นทีวีว่า สารพิษต้องสงสัยที่พบเป็นสารไซยาไนด์ (cyanide) ตำรวจและเจ้าหน้าที่นิติเวชยังคงตรวจเก็บหลักฐานอื่นๆภายในโรงแรมเพื่อหาเบาะแสสาเหตุการตายของชาวต่างชาติทั้งหกต่อไป

ในเวลาต่อมา สื่อต่างประเทศรายงานอ้างอิงเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เปิดเผยว่า อย่างน้อยมีผู้เสียชีวิต 1 รายจากทั้งหมด 6 ราย ที่เป็นชาวอเมริกันที่มีเชื้อสายเวียดนาม และศพทั้งหมดถูกพบที่ห้องพักในโรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ เจ้าหน้าที่รุดไปยังที่เกิดเหตุหลังได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากพนักงานของโรงแรมในเวลาประมาณ 17.30 น.

รายละเอียดที่เปิดเผยโดยกระทรวงการต่างประเทศในเวลาต่อมาเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตคือ 4 รายเป็นชาวเวียดนาม และ 2 รายเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม

ต่างชาติรายที่เจ็ดยังไร้ร่องรอย (ภาพข่าวรอยเตอร์)

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีแถลงข่าวต่อผู้สื่อข่าวที่โรงแรมดังกล่าวเมื่อคืนวันอังคาร (16 ก.ค.) ว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหกเป็นแขกของโรงแรมและไม่มีร่องรอยการต่อสู้ใดๆ และนอกจากหกศพที่พบแล้ว ยังมีชาวต่างชาติรายที่เจ็ดที่มีชื่อลงทะเบียนเข้าพักพร้อมกัน แต่ไม่รู้ว่าขณะนี้อยู่ที่ใด

นายกรัฐมนตรีแถลงข่าวด้วยตัวเอง พร้อมด้วยพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)

เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงเบื้องต้นว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 3 คน หญิง 3 คน มีการแจ้งว่าจะเช็คเอาท์ 4 ห้องพักในวันจันทร์ (15 ก.ค.) แต่ต่อมาเมื่อแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดห้องพักก็พบศพทั้งหมด เจ้าหน้าที่ระบุว่า พบ “สารต้องสงสัย” ในถ้วยและแก้วน้ำหลายใบที่พบในห้องพัก

ณ ช่วงเวลาแถลงข่าวคืนวันอังคาร (ราว 21.00-22.00 น.) ตำรวจยังไม่ยืนยันสาเหตุการตายของชาวต่างชาติทั้งหก รวมทั้งอีกหนึ่งคนที่มีชื่อลงทะเบียนเข้าพักแต่ยังไม่พบตัว 

บลูมเบิร์กรายงานทิ้งท้ายว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นแหล่งสร้างงานประมาณ 20% และสร้างรายได้ราว 12% ให้กับเศรษฐกิจไทยที่มีมูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ รัฐบาลไทยภายใต้การบริหารงานของนายกฯเศรษฐา ทวีสิน มีเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ 80 ล้านคนในปี 2027 

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนไทยตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงวันที่ 14 ก.ค.เพิ่มขึ้นประมาณ 35% เป็น 18.9 ล้านคน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สร้างรายได้ราว 25,000 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 891,000 ล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยวจีน มาเลเซีย และอินเดีย เป็นสามอันดับแรกที่มาเยือนไทยมากที่สุดในปีนี้     

ข้อมูลอ้างอิง