ส่องแลนด์บริดจ์ของกัมพูชา ‘คลองฟูนัน เตโช’ เตรียมวางศิลาฤกษ์ 5 ส.ค.

03 ส.ค. 2567 | 03:00 น.

อภิมหาโปรเจกต์ความหวังใหม่ของกัมพูชา ขุด ‘คลองฟูนัน เตโช’ เตรียมวางศิลาฤกษ์ 5 ส.ค. นี้ เปิดเส้นทางคมนาคมแห่งใหม่ให้กัมพูชา แต่อาจเกิดเป็นชนวนความขัดแย้งใหม่ระหว่างกัมพูชา-เวียดนาม

“โครงการขุดคลองฟูนัน เตโช” อภิมหาโปรเจกต์ความหวังใหม่ของกัมพูชา คือหนึ่งในนโยบายของฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ตั้งธงประกาศไว้ตั้งแต่ตอนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนสิงหาคม 2566

 

“โครงการขุดคลองฟูนัน เตโช” มีความยาวถึง 180 กิโลเมตร จะเป็นเส้นคมนาคมทางน้ำสายแรกที่เชื่อมจากท่าเรือในกรุงพนมเปญ กับท่าเรือน้ําลึกที่สีหนุวิลล์ทันที ซึ่งจะเชื่อมต่อระหว่างแม่น้ำโขงไปสู่ทะเลอ่าวไทย แต่โครงการขุดคลองฟูนัน เตโช ดูเหมือนจะไม่ราบรื่นแล้ว และอาจกลายเป็นชนวนเหตุความขัดแย้งระหว่างกัมพูชากับเวียดนามได้

 

โครงการขุดคลองฟูนัน เตโช ต้องใช้งบลงทุนมูลค่า 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 62,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้า เปิดดำเนินการในปี 2571

 

โครงการนี้ได้กลายเป็นความคาดหวังใหม่ของกัมพูชา หากสำเร็จได้จริง จะช่วยลดการขนส่งสินค้าผ่านเวียดนามถึง 70% ก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาลต่อเศรษฐกิจกัมพูชา และคาดว่าจะช่วยสร้างงานประชาชนตามเส้นทางกว่า 1,600,000 คน

 

โครงการนี้ทางกัมพูชาจะมีพิธีวางศิลาฤกษ์วันที่ 5 ส.ค. 2567 ซึ่งตรงกับวันเกิดของบิดาของฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภาและประธานพรรคประชาชนกัมพูชา ได้สั่งการให้เจดีย์ทุกองค์ในประเทศจุดประทัดแสดงการสนับสนุนโครงการ

“คลองฟูนัน เตโช” สะเทือนความสัมพันธ์เวียดนาม ?

 

แต่โครงการนี้สร้างความสนใจให้กับเวียดนามอย่างมาก โดยนายกเวียดนาม ฝ่าม มินห์ จิ๋นห์ ได้แสดงความกังวลในประเด็นผลกระทบต่อระบบการไหลเวียนของแม่น้ำที่ไหล จากประเทศกัมพูชาไปสู่เวียดนาม และต้องการที่จะคัดค้าน นักการเมืองกัมพูชา วิเคราะห์ว่าอาจจะเป็นเพราะเวียดนามเองกลัวที่จะสูญเสียอิทธิพลเหนือลุ่มน้ำโขง และกลัวว่าจีนอาจใช้คลองนี้เพื่อแทรกแซงกิจการเมือง และทหาร 

 

ในประเด็นนี้อาจเชื่อมโยงได้ถึงข้อกังวลในจุดเชื่อมต่อ  “ยุทธศาสตร์ทางทะเล” แห่งใหม่ของประธานสี จิ้นผิง เนื่องจากกัมพูชาเองมีท่าเรือน้ำลึกเพียงแห่งเดียวคือ “สีหนุวิลล์” ซึ่งสีหนุวิลล์ถูกตั้งให้เป็น เมืองยุทธศาสตร์บนเส้นทางการค้า โครงการจีนเชื่อมโลก เส้นทางสายไหมใหม่ หรือ BRI เมื่อไม่ต้องพึ่งพาท่าเรือของเวียดนาม และสามารถใช้ท่าเรือสีหนุวิลล์ได้ เวียดนามสูญเสียผลประโยชน์และอิทธิพลทางเศรษฐกิจไปอย่างมหาศาล

 

นอกจากนี้นักวิจัยจากสถาบันที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเวียดนามได้แสดงข้อกังวลว่า คลองจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่กองทัพจีนที่อยู่ในดินแดนกัมพูชา ซึ่งมีผลกระทบต่อการป้องกันประเทศ

 

รัฐบาลเวียดนามต้องการที่จะให้กัมพูชาชะลอโครงการลง แต่ ฮุนมาเนต พร้อมเดินหน้าและยืนยันว่าโครงการนี้ผ่านการศึกษาอย่างละเอียด อยู่ในขั้นตอนการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และการขุดคลองไม่จำเป็นต้องให้กัมพูชาขอการอนุมัติจากประเทศอื่น 

 

คลองฟูนันเตโช อาจเป็นจุดชนวนที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและเวียดนาม จากที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน ร่วมมืออย่างเสมอภาคและเอื้อประโยชน์ต่อกัน และความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ดี

ปี 2018 เวียดนามมีโครงการลงทุนในกัมพูชากว่า 200 โครงการ ยอดเงินทุนจดทะเบียนกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เวียดนามก็กลายเป็น 1ใน 10 ประเทศที่ลงทุนในกัมพูชาสูงสุด

 

ปัจจุบันกัมพูชาพึ่งพาการพัฒนาเศรษฐกิจ จากทุนจีนเป็นหลัก โดยในปี 2565 การอนุมัติเงินลงทุนจากต่างประเทศของกัมพูชา จีนได้ขึ้นแท่นอันดับ 1 ในสัดส่วนการลงทุนกว่า 90% รวมถึงจีนก็ได้เข้ามาช่วยเหลืออื่นๆ ภายในประเทศ เนื่องจากกัมพูชาเป็นหนึ่งในพันธมิตรโครงการ BRI ทำให้เม็ดเงินของประเทศอื่นๆ อาจจะไม่ได้สำคัญเท่าเม็ดเงินที่จีนเข้ามาช่วยพัฒนาประเทศ เนื่องจากกัมพูชายังต้องพึ่งพาทุนจีน ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อฟื้นเศรษฐกิจ 

 

เศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 2024 คาดว่า จะเติบโตที่ 5.8% และเติบโต 6% ในปี 2025 โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและแนวโน้มการผลิตที่แข็งแกร่ง

 

แต่กัมพูชาจะเผชิญปัญหาเพราะพึ่งพาจีนมากเกินไป ซึ่งการลงทุนจีนมีบทบาทสำคัญในการสร้างงานและส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา แต่อาจจะเป็นความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนในระยะยาว 

 

ด้วยความที่ เศรษฐกิจ กัมพูชาพึ่งพิงจีนเป็นส่วนใหญ่ ก็ทำให้มีความเสี่ยงทางการเมืองและความเชื่อมั่นทางการเงินที่มาพร้อมกับการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศด้วย 

“หากเศรษฐกิจจีนมีปัญหา อาจจะส่งผลร้ายแรงต่อกัมพูชาอีกด้วย”