คนงานโบอิ้ง 30,000 คนประท้วงใหญ่ - ผลิต 737 MAX หยุดชะงัก

13 กันยายน 2567 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าพนักงานในโรงงานฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ของ บริษัทโบอิ้ง (BA.N) ได้หยุดงานในช่วงเช้าวันศุกร์ หลังจากที่ 96% ลงคะแนนเสียงสนับสนุนการประท้วง ส่งผลให้การผลิตเครื่องบินรุ่นที่ขายดีที่สุดของบริษัทต้องหยุดชะงัก ในขณะที่บริษัทกำลังเผชิญกับปัญหาความล่าช้าในการผลิตอย่างเรื้อรังและหนี้สินที่เพิ่มขึ้น

 

การประท้วงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 เกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่ เคลลี่ ออร์ตเบิร์ก ซีอีโอคนใหม่เข้ามารับตำแหน่งในเดือนสิงหาคม เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นในบริษัทผู้ผลิตเครื่องบิน หลังจากเหตุการณ์แผงประตูของ เครื่องบิน 737 MAX หลุดออกกลางอากาศในเดือนมกราคม

สมาชิกสมาคมช่างเครื่องกลและคนงานอวกาศนานาชาติ (IAM) ประมาณ 30,000 คน ซึ่งผลิตเครื่องบิน 737 MAX และเครื่องบินรุ่นอื่นๆ ในพื้นที่ซีแอตเทิลและพอร์ตแลนด์ ได้ลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับสัญญาจ้างงานฉบับสมบูรณ์ฉบับแรกในรอบ 16 ปี โดยส่วนใหญ่ปฏิเสธข้อตกลงและสนับสนุนการประท้วง

"นี่เป็นเรื่องของการเคารพ เป็นเรื่องของการจัดการกับอดีต และเป็นเรื่องของการต่อสู้เพื่ออนาคตของเรา" จอน โฮลเดน ผู้นำการเจรจาของสหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดของโบอิ้งกล่าว ก่อนที่จะประกาศผลการลงคะแนนเสียงในคืนวันพฤหัสบดี

โบอิ้งกล่าวในคืนวันพฤหัสบดีว่า ผลการลงคะแนนเสียงส่งสัญญาณชัดเจนว่าข้อตกลงชั่วคราวที่บริษัททำกับผู้นำ IAM นั้นไม่เป็นที่ยอมรับของสมาชิก

 

"เรายังคงมุ่งมั่นที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับพนักงานและสหภาพของเรา และเราพร้อมที่จะกลับไปที่โต๊ะเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงใหม่" บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินกล่าวในแถลงการณ์

ข้อตกลงดังกล่าวรวมถึงการเพิ่มค่าจ้างทั่วไป 25% โบนัส 3,000 ดอลลาร์ และคำมั่นสัญญาที่จะสร้างเครื่องบินพาณิชย์ลำต่อไปของโบอิ้งในพื้นที่ซีแอตเทิล หากโครงการได้รับการเปิดตัวภายในระยะเวลา 4 ปีของสัญญา

 

แม้ว่าผู้นำ IAM จะแนะนำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาให้สมาชิกยอมรับสัญญา แต่คนงานจำนวนมากได้ตอบสนองด้วยความโกรธ โดยเรียกร้องการขึ้นค่าจ้าง 40% ตามที่เรียกร้องในตอนแรก และแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียโบนัสประจำปี

 

"เราจะกลับไปที่โต๊ะเจรจาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้" จอน โฮลเดน กล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยไม่ได้ระบุว่าเขาคิดว่าการประท้วงจะกินเวลานานเท่าใดหรือเมื่อใดที่การเจรจาจะกลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง "นี่เป็นสิ่งที่เราต้องดำเนินการทีละวัน ทีละสัปดาห์"

หุ้นของโบอิ้งปิดตัวเพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อวันพฤหัสบดีก่อนที่จะมีการประกาศผลการลงคะแนนเสียง แต่ลดลง 36% ในปีนี้เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย การผลิต และภาระหนี้ 60 พันล้านดอลลาร์

 

การประท้วงทำให้โบอิ้งเผชิญกับความท้าทายหลายประการ บริษัทจะต้องตัดสินใจว่าจะตอบสนองอย่างไรที่โต๊ะเจรจา หลังจากที่กล่าวว่าได้เสนอทุกอย่างที่สามารถทำได้แล้ว นอกจากนี้ บริษัทยังต้องหาวิธีรักษาความปลอดภัยให้กับโรงงานที่เต็มไปด้วยเครื่องบินที่สร้างเสร็จบางส่วนซึ่งมีมูลค่าสูงมาก โดยไม่มีคนงานสหภาพมาทำงาน

 

ในจดหมายถึงพนักงานเมื่อวันพุธที่ผ่านมา Ortberg กล่าวว่า "การประท้วงจะทำให้การฟื้นตัวร่วมกันของเราตกอยู่ในอันตราย ทำลายความไว้วางใจของลูกค้าของเรามากขึ้น และส่งผลกระทบต่อความสามารถของเราในการกำหนดอนาคตร่วมกัน"

 

หากยืดเยื้อ การประท้วงจะส่งผลกระทบไม่เพียงแต่ต่อสถานะทางการเงินของโบอิ้งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสายการบินที่ต้องพึ่งพาเครื่องบินของบริษัท และซัพพลายเออร์ที่ผลิตชิ้นส่วนและส่วนประกอบสำหรับเครื่องบินของบริษัทด้วย

แคมป์เบลล์ วิลสัน ซีอีโอของสายการบิน Air India กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า การส่งมอบเครื่องบิน 737 MAX ของโบอิ้งให้กับสายการบินของเขาดูเหมือนจะ "ล่าช้าเล็กน้อย" แม้แต่ก่อนการประกาศประท้วง เนื่องจากการตรวจสอบของหน่วยงานกำกับดูแลหลังจากเหตุการณ์ของสายการบิน Alaska Airlines และปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในวงกว้าง

 

"ยังไม่มีอะไรเป็นทางการ แต่ผมคิดว่าสัญญาณหรือความคาดหวังก็คือมันจะล่าช้าออกไปอีกนิดหน่อย" เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์ที่ซิดนีย์

ตามบันทึกของ TD Cowen ก่อนการลงคะแนนเสียง การประท้วงเป็นเวลา 50 วันอาจทำให้โบอิ้งสูญเสียกระแสเงินสดประมาณ 3 พันล้านถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์

 

การประท้วงครั้งล่าสุดของคนงานโบอิ้งในปี 2551 ทำให้โรงงานต้องปิดตัวลงเป็นเวลา 52 วัน และส่งผลกระทบต่อรายได้ประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ต่อวัน

 

S&P Global Ratings กล่าวว่าการประท้วงที่ยืดเยื้ออาจทำให้การฟื้นตัวของบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินล่าช้าออกไปและส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับโดยรวม ทั้ง S&P และ Moody's จัดอันดับโบอิ้งอยู่เหนือระดับขยะหนึ่งขั้น