เทียบนโยบาย ทรัมป์ VS แฮร์ริส ศึกเลือกตั้งสหรัฐ ปฏิรูปแรงงานต่างด้าว

15 ต.ค. 2567 | 07:23 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ต.ค. 2567 | 10:56 น.

“โดนัลด์ ทรัมป์-กมลา แฮร์ริส” เสนอแนวทางตรงข้ามในการจัดการปัญหาการอพยพและแรงงาน ส่งผลกระทบต่อแรงงานต่างด้าวในสหรัฐฯ

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024 นโยบายด้านการอพยพและกฎหมายแรงงานได้กลายเป็นหนึ่งในหัวข้อที่ถูกพูดถึงอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อต้องเทียบกันระหว่าง "โดนัลด์ ทรัมป์" อดีตประธานาธิบดีผู้เคยออกนโยบายที่เข้มงวดเกี่ยวกับการอพยพในช่วงดำรงตำแหน่ง กับ "กมลา แฮร์ริส" รองประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่มุ่งเน้นนโยบายการปฏิรูปที่ยืดหยุ่นและเน้นความยุติธรรมทางสังคม นโยบายของทั้งสองผู้สมัครสะท้อนความแตกต่างทางการเมืองอย่างชัดเจน โดยมีผลกระทบโดยตรงต่อผู้อพยพและแรงงานต่างด้าว รวมถึงคนไทยที่ทำงานและอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ

โดนัลด์ ทรัมป์เป็นที่รู้จักในนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" ซึ่งเน้นความเข้มงวดในการจัดการผู้อพยพผิดกฎหมาย สนับสนุนการขยายกำแพงชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก เพื่อป้องกันการเข้ามาของผู้อพยพอย่างผิดกฎหมาย อีกทั้งยังมีแผนการเพิ่มการขับไล่ผู้อพยพที่ไม่มีเอกสาร โดยนโยบายนี้มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการอพยพและรักษาความมั่นคงของประเทศ

อย่างไรก็ตาม นโยบายที่เกี่ยวกับการแยกครอบครัวของผู้อพยพในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งกลับได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะถูกมองว่าไร้มนุษยธรรมและมีผลกระทบต่อเด็กๆ ที่ถูกแยกออกจากครอบครัว นโยบายที่เข้มงวดเหล่านี้ทำให้ทรัมป์ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนอเมริกันที่เน้นความมั่นคงของประเทศ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มสิทธิมนุษยชน

เครดิตภาพ Reuters

ในทางกลับกัน "กมลา แฮร์ริส" ซึ่งเป็นตัวแทนจากพรรคเดโมแครต นำเสนอนโยบายที่ตรงข้ามกับทรัมป์โดยสิ้นเชิง แฮร์ริสมุ่งเน้นการให้โอกาสผู้อพยพผิดกฎหมายที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ มานาน โดยเฉพาะกลุ่มที่เข้ามาตั้งแต่วัยเด็ก เช่น ผู้เข้าร่วมโครงการ DACA (Deferred Action for Childhood Arrivals) ที่แฮร์ริสสนับสนุนให้มีเส้นทางสู่การเป็นพลเมือง นโยบายของแฮร์ริสเน้นการรวมผู้อพยพเข้าสู่สังคมอเมริกัน และมองว่าผู้อพยพเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ

นอกจากนี้ แฮร์ริสยังมองว่าการขยายกำแพงชายแดนเป็นวิธีที่ล้าสมัย และเสนอมาตรการทางเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้นในการรักษาความปลอดภัยชายแดน แทนการขยายกำแพง

เครดิตภาพ Reuters

นโยบายการอพยพของทรัมป์และแฮร์ริสมีผลกระทบต่อแรงงานต่างด้าว รวมถึงแรงงานไทยในสหรัฐฯ ทรัมป์เน้นการขับไล่ผู้อพยพผิดกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อแรงงานต่างด้าวไทยที่ไม่มีเอกสารที่ทำงานในภาคเกษตรกรรมและบริการที่ต้องพึ่งพาแรงงานอพยพผิดกฎหมายจำนวนมาก ขณะที่นโยบายของแฮร์ริสจะช่วยเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวมีโอกาสได้รับสถานะทางกฎหมาย ทำให้พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเข้าถึงสิทธิต่างๆ ที่กฎหมายคุ้มครอง

เครดิตภาพ Reuters

นอกจากนี้ หากเปรียบเทียบนโยบายแรงงานของทั้งสอง ทรัมป์เน้นการรักษาตำแหน่งงานในประเทศโดยเน้นการควบคุมจำนวนผู้อพยพและการลดแรงงานต่างชาติ เพื่อให้มีงานสำหรับคนอเมริกัน ในขณะที่แฮร์ริสเชื่อว่าผู้อพยพสามารถมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการจัดหางานในภาคอุตสาหกรรมที่กำลังขาดแคลนแรงงาน

สำหรับคนไทยที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ นโยบายของทั้งสองผู้สมัครย่อมส่งผลกระทบต่ออนาคต โดยเฉพาะแรงงานไทยที่ทำงานในภาคบริการและการเกษตรที่ต้องพึ่งพานโยบายการอพยพที่มีความยืดหยุ่น หากทรัมป์ได้รับการเลือกตั้ง แรงงานเหล่านี้อาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการถูกขับไล่และความไม่มั่นคงทางกฎหมาย ขณะที่แฮร์ริสจะช่วยเปิดโอกาสให้กลุ่มแรงงานเหล่านี้สามารถดำเนินชีวิตและทำงานในสหรัฐฯ ได้อย่างมั่นคงมากขึ้น

เครดิตภาพ Reuters

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้ จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการกำหนดทิศทางของนโยบายการอพยพและแรงงาน ที่ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกัน แต่ยังส่งผลกระทบต่อแรงงานที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ และต้องพึ่งพานโยบายเหล่านี้ในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมีเสถียรภาพ

เทียบนโยบาย ทรัมป์ VS แฮร์ริส ศึกเลือกตั้งสหรัฐ ปฏิรูปแรงงานต่างด้าว

อ้างอิง: