สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้เรียกร้องให้ถอดถอนประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล หลังจากที่เขาประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อคืนวันอังคาร ก่อนจะกลับลำยกเลิกภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง สร้างวิกฤตการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษของประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชีย
การประกาศกะทันหันนี้นำไปสู่การเผชิญหน้ากับรัฐสภา ซึ่งปฏิเสธความพยายามของประธานาธิบดีในการห้ามกิจกรรมทางการเมืองและควบคุมสื่อ ขณะที่ทหารติดอาวุธบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาที่กรุงโซล
กลุ่มพรรคฝ่ายค้านระบุว่าจะเสนอญัตติถอดถอนประธานาธิบดียุนในวันพุธ ซึ่งจะต้องมีการลงคะแนนเสียงภายใน 72 ชั่วโมง
ประธานาธิบดียุนแถลงทางโทรทัศน์ว่า การประกาศกฎอัยการศึกมีความจำเป็นเพื่อปกป้องประเทศจากเกาหลีเหนือที่มีอาวุธนิวเคลียร์และกลุ่มต่อต้านรัฐที่สนับสนุนเกาหลีเหนือ รวมถึงปกป้องระเบียบรัฐธรรมนูญเสรี แม้จะไม่ได้ระบุถึงภัยคุกคามที่เฉพาะเจาะจง
เหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อทหารสวมหมวกนิรภัยปีนเข้าอาคารรัฐสภาผ่านหน้าต่างที่แตก และเฮลิคอปเตอร์ทหารบินวนเหนือศีรษะ เจ้าหน้าที่รัฐสภาใช้เครื่องดับเพลิงฉีดเพื่อผลักดันทหารกลับไป ขณะที่ผู้ประท้วงปะทะกับตำรวจด้านนอก
อย่างไรก็ตาม ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการประกาศ รัฐสภาเกาหลีใต้ซึ่งมีสมาชิก 190 คนจากทั้งหมด 300 คนเข้าร่วม ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ยกเลิกกฎอัยการศึก รวมถึงสมาชิกทั้ง 18 คนจากพรรคของประธานาธิบดียุนที่เข้าร่วมประชุม จากนั้นประธานาธิบดีจึงได้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว
ตลาดการเงินผันผวน โดยหุ้นเกาหลีใต้ร่วงลงประมาณ 2% ในช่วงเช้าวันพุธ ขณะที่เงินวอนทรงตัวที่ระดับประมาณ 1,418 วอนต่อดอลลาร์ หลังจากดิ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบสองปี
พรรคประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักเรียกร้องให้ประธานาธิบดียุน ซึ่งเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2565 ลาออกหรือเผชิญการถูกถอดถอนจากการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งเป็นครั้งแรกในเกาหลีใต้นับตั้งแต่ปี 2523