"ปูติน" ขอโทษประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจานกรณีเครื่องบินตก

กรณีเครื่องบินเอ็มบราเออร์ 190 ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ เที่ยวบิน J2-8243 จากกรุงบากู เมืองหลวงของอาเซอร์ไบจาน ไปยังเมืองกรอซนี ประเทศรัสเซีย ตกใกล้เมืองอักเตาของคาซัคสถาน เมื่อวันพุธ (25 ธ.ค.) โดยมีผู้โดยสาร 62 คน และลูกเรือ 5 คนอยู่บนเครื่อง

ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 38 รายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่ 29 รายได้รับการช่วยชีวิต ตามข้อมูลจากกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของคาซัคสถาน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ขอโทษประธานาธิบดีอิลฮัม อาลีเยฟ ของอาเซอร์ไบจาน ระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์ในวันเสาร์ (28 ธ.ค.) กรณีเกิดเหตุการณ์ที่เครมลินเรียกว่า "โศกนาฏกรรมเหนือน่านฟ้ารัสเซีย" เมื่อเครื่องบินของสายการบินอาเซอร์ไบจานตกหลังจากรัสเซียยิงระบบป้องกันภัยทางอากาศใส่โดรนของยูเครน

ขอโทษที่เผยแพร่ต่อสาธารณะในลักษณะนี้ถือเป็นเรื่องที่แทบไม่ปรากฏ และแสดงถึงการยอมรับผิดกลาย ๆ ของรัสเซียต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่าแถลงการณ์ของเครมลินไม่ได้ระบุว่ารัสเซียยิงเครื่องบินลำดังกล่าวตก แต่ระบุเพียงว่ามีการเปิดการสอบสวนทางอาญาก็ตาม 

ในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ ปูตินยังได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และขอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บฟื้นตัวโดยเร็ว 

ปูตินกล่าวว่า เที่ยวบินของอาเซอร์ไบจานพยายามอยู่หลายครั้งที่จะลงจอดที่สนามบินในกรอซนี ซึ่งขณะนั้นกรอซนีกำลังถูกโดรนของยูเครนโจมตี และระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียสามารถต้านทานการโจมตีดังกล่าวได้

ด้านอาลีเยฟกล่าวว่า เครื่องบินต้องถูกเบี่ยงเส้นทางไปที่อักเตา ประเทศคาซัคสถาน และได้ลงจอดฉุกเฉินที่นั่น พร้อมอ้างคำให้การของผู้รอดชีวิต

รวมทั้งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เป็นหลักฐานว่าเครื่องบินถูกรบกวนจากภายนอก โดยมีสิ่งแปลกปลอมเจาะทะลุลำตัวเครื่องบินในระหว่างที่ทำการบิน ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือได้รับบาดเจ็บ 

ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องต้องกันว่าจำเป็นต้องมีการสืบสวนอย่างละเอียด โดยอาลีเยฟยืนยันว่า คณะผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศได้เริ่มตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว

ขณะที่ปูตินกล่าวว่า คณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียได้เปิดสอบคดีอาญาภายใต้การละเมิดกฎความปลอดภัยทางการจราจรและการดำเนินการขนส่งทางอากาศ พร้อมเสริมว่าการสืบสวนเบื้องต้นยังคงดำเนินต่อไป