ตำรวจเกาหลีใต้สั่งห้ามนายคิม อี-แบ ซีอีโอของสายการบินเจจูแอร์(Jeju Air) เดินทางออกนอกประเทศ ท่ามกลางการสอบสวนอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ พร้อมทั้งบุกค้นสถานที่สำคัญเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เมื่อเครื่องบินโดยสารของเจจูแอร์เที่ยวบินที่ 2216 ซึ่งเดินทางจากกรุงเทพฯ ประสบอุบัติเหตุขณะลงจอดที่สนามบินนานาชาติมูอัน
โดยเครื่องบินลงจอดด้วยลำตัวเครื่อง (Belly Landing) ชนกับกำแพงด้านนอกสนามบินและเกิดการระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 179 คนจากผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 181 คน
เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2025 สำนักงานตำรวจจังหวัดช็อนนัมได้ดำเนินการตรวจค้นสนามบินมูอัน สำนักงานเจจูแอร์ในกรุงโซล และสำนักงานการบินภูมิภาคปูซาน โดยมีการออกหมายค้นในข้อหาประมาทเลินเล่อทางวิชาชีพจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ตำรวจเปิดเผยว่าการบุกค้นครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุและความรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หน่วยงานการบินเกาหลีใต้ระบุว่าขณะนี้สามารถดึงข้อมูลจากกล่องดำหนึ่งในสองกล่องของเครื่องบินได้สำเร็จ ส่วนกล่องดำอีกกล่องซึ่งได้รับความเสียหายจะถูกส่งไปยังสหรัฐฯ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติม
นอกจากนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เริ่มตรวจสอบเครื่องบินรุ่น Boeing 737-800 ทั้งหมดที่ยังปฏิบัติการในประเทศ รวมถึงดำเนินการตรวจสอบเชิงลึกในสายการบินทั่วประเทศ
นายชเว ซัง-มก รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวว่าต้องดำเนินมาตรการทันทีหากพบข้อบกพร่องในเครื่องบินรุ่นนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินได้เสนอปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ รวมถึงการชนกับนก ความล้มเหลวทางกลไก และการมีคันดินแข็งอยู่ใกล้กับปลายรันเวย์
อุบัติเหตุครั้งนี้นับเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดที่เกี่ยวข้องกับสายการบินของเกาหลีใต้ นับตั้งแต่เครื่องบิน Boeing 747 ของ Korean Air ตกในปี 1997 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 228 ราย
ที่มา: Al Jazeera, Yonhap News Agency