กลุ่ม BRICS ผงาด จากตลาดเกิดใหม่สู่อิทธิพลพลิกดุลอำนาจโลก

09 ม.ค. 2568 | 06:40 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ม.ค. 2568 | 06:52 น.

กลุ่ม BRICS ขยายบทบาทและสมาชิกต่อเนื่อง ท้าทายระเบียบโลกเดิม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การเมือง และพลังงานในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลง

ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา "กลุ่ม BRICS" ซึ่งเริ่มต้นจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างรัสเซีย บราซิล อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่มีบทบาทสำคัญในเวทีโลก โดยสมาชิกและประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS รวมทั้งสิ้น 18 ประเทศ มีส่วนแบ่งทางเศรษฐกิจโลกถึง 41.4% เมื่อวัดในรูปแบบอำนาจซื้อ (Purchasing Power Parity - PPP) ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในเดือนตุลาคม 2567

BRICS เริ่มก่อตั้งในปี 2552 ด้วยเป้าหมายการสร้างสมดุลต่ออำนาจของชาติตะวันตกในเวทีระหว่างประเทศ การรวมกลุ่มนี้เน้นความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงการผลักดันความยุติธรรมในระเบียบโลกใหม่ ในปัจจุบัน BRICS ได้ขยายสมาชิกอย่างเป็นทางการ 10 ประเทศ ได้แก่...

  • บราซิล
  • รัสเซีย
  • อินเดีย
  • จีน
  • แอฟริกาใต้
  • อียิปต์
  • เอธิโอเปีย
  • อิหร่าน
  • สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)
  • อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศแรกที่ได้สถานะสมาชิกเต็มตัว

การขยายตัวครั้งใหญ่ ผลกระทบต่อสมดุลโลก

การเพิ่มสมาชิกของ BRICS ไม่เพียงสะท้อนถึงความสำเร็จของกลุ่มในการสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาค แต่ยังแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในสมดุลอำนาจโลก ด้วยประชากรรวมกว่า 4 พันล้านคน (เกือบครึ่งหนึ่งของโลก) และส่วนแบ่งทางเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาล กลายเป็นตัวแปรสำคัญในระเบียบโลกใหม่ 

ประเทศใหม่ เช่น ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ช่วยเพิ่มบทบาทด้านพลังงาน ขณะที่อินโดนีเซียและเอธิโอเปียเสริมเสียงจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแอฟริกา

 

บทบาททางการเมือง ท้าทายระเบียบโลกเดิม

หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของ BRICS คือการสร้างระเบียบโลกที่สมดุลมากขึ้น กลุ่มนี้พยายามลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ และสนับสนุนการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในธุรกรรมระหว่างประเทศ นอกจากนี้ การขยายตัวของ BRICS ยังช่วยเพิ่มเสียงให้ประเทศกำลังพัฒนาในเวทีโลก เช่น การปฏิรูปสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN Security Council)

การที่ "อินโดนีเซีย" เข้าร่วมกลุ่มในฐานะสมาชิกจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศแรก สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในบทบาทของภูมิภาคนี้ในเวทีโลก ไทยซึ่งแสดงความจำนงที่จะเข้าร่วม BRICS อาจเป็นสมาชิกต่อไปที่ช่วยยกระดับบทบาทของอาเซียน

การเติบโตของ BRICS มาพร้อมกับความคาดหวังใหม่และอุปสรรคที่ต้องแก้ไข

  • การใช้สกุลเงินท้องถิ่นแทนดอลลาร์สหรัฐ BRICS ผลักดันแนวคิด "ลดการพึ่งพาดอลลาร์" ผ่านการใช้สกุลเงินท้องถิ่นหรือการสร้างสกุลเงินร่วมใหม่
  • การสร้างธนาคารพัฒนาใหม่ (New Development Bank - NDB) ให้เงินกู้เพื่อการพัฒนาที่คล่องตัวกว่า IMF และธนาคารโลก โดยเน้นโครงการพลังงานสะอาดและโครงสร้างพื้นฐาน

 

ความขัดแย้งภายในและอุปสรรคด้านเอกภาพ

แม้จะมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ BRICS เผชิญกับความขัดแย้งภายใน เช่น ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างจีนและอินเดียจากข้อพิพาทชายแดน รวมถึงท่าทีที่แตกต่างกันต่อสงครามในยูเครน รัสเซียในฐานะประธานหมุนเวียนของ BRICS ในปี 2567 พยายามผลักดันกลุ่มในทิศทางที่ต่อต้านตะวันตก แต่ประเทศอื่น เช่น บราซิลและอินเดีย มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชาติตะวันตกมากกว่า

นอกจากนี้ การรับสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นอาจทำให้การตัดสินใจของกลุ่มซับซ้อนขึ้น เนื่องจากสมาชิกแต่ละประเทศมีความสนใจและกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน

 

BRICS กับบทบาทของไทย

"ประเทศไทย" แสดงเจตจำนงที่จะเข้าร่วมกลุ่ม BRICS อย่างเป็นทางการในปี 2566 โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับบทบาทของประเทศในเวทีนานาชาติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และการกำหนดนโยบายโลก

หลังจากที่ประเทศไทยยื่นความประสงค์ดังกล่าว ไทยได้รับสถานะเป็น "ประเทศหุ้นส่วน" ของ BRICS อย่างเป็นทางการในวันที่ 24 ตุลาคม 2567 ในการประชุมสุดยอด BRICS Plus ครั้งที่ 4 ที่จัดขึ้นในเมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย สถานะนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมบทบาทของไทยในระดับโลก

การเข้าร่วม BRICS ในฐานะประเทศหุ้นส่วนเปิดโอกาสให้ไทยพัฒนาเศรษฐกิจในหลายมิติ เช่น การส่งเสริมการค้า การลงทุน การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน และความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด นอกจากนี้ การสนับสนุนการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในธุรกรรมระหว่างประเทศยังช่วยลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่ม BRICS

อย่างไรก็ตาม ไทยยังไม่ได้รับสถานะเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบ ซึ่งต้องผ่านกระบวนการเพิ่มเติมเพื่อให้ได้รับการยอมรับในอนาคต การก้าวเข้าสู่สถานะสมาชิกเต็มตัวอาจช่วยเพิ่มความสามารถในการกำหนดทิศทางนโยบายเศรษฐกิจระดับโลก และสร้างโอกาสในการพัฒนาอุตสาหกรรมท้องถิ่นให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้

 

อนาคตของ BRICS กับการเติบโตที่ไม่มีที่สิ้นสุด?

ด้วยประเทศกว่า 40 ประเทศที่แสดงความสนใจเข้าร่วม BRICS ในอนาคต อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนเตือนว่า การขยายตัวอย่างรวดเร็วอาจทำให้ขาดเอกภาพและกลยุทธ์ที่ชัดเจน การสร้างสมดุลระหว่างความหลากหลายและการเป็นหนึ่งเดียวกันจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดความสำเร็จของ BRICS ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

 

อ้างอิง: Geopoliticaleconomy , University of TorontoCarnegieendowmentChinadaily , WeforumCouncil on Foreign Relations