ฟินแลนด์ประเทศสุขที่สุดในโลก 8 ปีซ้อน ไทยขยับขึ้นอันดับ 49

เป็นปีที่แปดติดต่อกันแล้วที่ฟินแลนด์ได้ครองอันดับที่ 1 ในรายการประเทศที่มีความสุขที่สุดของรายงาน World Happiness Report 2025 เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดนก็ติดอันดับท็อป 10 เช่นกัน ขณะเดียวกันประเทศไทย ปีนี้ติดอันดับที่ 49 ขยับขึ้นจากอันดับ 58 ในปีที่แล้ว World Happiness Report 2024 โดยได้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 6.22 

การที่กลุ่มประเทศนอร์ดิกครองรายการนี้ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ อิลลานา รอน เลวีย์ กรรมการผู้จัดการ gallup กล่าว เนื่องจากมีความมั่นคงในประเทศที่จัดหาสิ่งต่างๆ ให้กับประชาชน

ฟินแลนด์เป็นประเทศที่โดดเด่นผิดปกติ และคิดว่าโลกกำลังมุ่งเน้นที่จะเข้าใจว่าอะไรที่ทำให้ฟินแลนด์พิเศษ ความเชื่อมั่นในผู้อื่น การมองโลกในแง่ดีต่ออนาคต ความไว้วางใจในสถาบัน และการสนับสนุนจากเพื่อนและครอบครัวเป็นเหตุผลว่าทำไมชาวฟินแลนด์จึงมีความสุขมากกว่าคนส่วนใหญ่ ฉันคิดว่าอีกประเด็นสำคัญเกี่ยวกับฟินแลนด์คือมีความเหลื่อมล้ำด้านความเป็นอยู่ที่ดีภายในประเทศน้อยกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอย่างสหรัฐ

World Happiness Report จัดอันดับประเทศตามการประเมินชีวิตด้วยตนเองโดยเฉลี่ยระหว่างปี 2022-2024 และคำตอบต่อคำถามบันได Cantril ในการสำรวจ Gallup World Poll ซึ่งขอให้ผู้ตอบแบบสอบถามนึกถึงบันไดที่ชีวิตที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาคือ 10 และแย่ที่สุดคือ 0 จากนั้น ถูกขอให้ประเมินชีวิตปัจจุบันบนมาตรวัดนั้น

ศูนย์วิจัยความเป็นอยู่ที่ดีแห่งมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด ซึ่งเผยแพร่รายงานนี้ กล่าวว่านอกจากคำถามบันได Cantril แล้ว รายงานยังพิจารณาตัวแปรอีกหกประการในกว่า 130 ประเทศที่จัดอันดับในรายงาน

• GDP ต่อหัว
• การสนับสนุนทางสังคม
• อายุขัยที่มีสุขภาพดี
• เสรีภาพ
• ความเอื้อเฟื้อ
• เสรีภาพจากการคอร์รัปชัน

สหรัฐไม่ติดท็อป 10

และแท้จริงแล้วตกจากอันดับที่ 23 ในปีที่แล้วมาอยู่ที่อันดับ 24 รอน เลวีย์ อธิบายว่าการตกลงนั้นส่วนหนึ่งมาจากคนหนุ่มสาวอายุต่ำกว่า 30 ปีที่รู้สึกแย่กับชีวิตของพวกเขามากกว่าแต่ก่อน

พวกเขารู้สึกว่าได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนและครอบครัวน้อยลง มีอิสระในการเลือกชีวิตน้อยลง และมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับมาตรฐานการครองชีพของพวกเขาน้อยลง

รายงานพบว่าชาวอเมริกันใช้เวลารับประทานอาหารคนเดียวมากขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2023 ชาวอเมริกันประมาณ 1 ใน 4 รายงานว่ารับประทานอาหารทุกมื้อคนเดียวในวันก่อนหน้า เพิ่มขึ้น 53% นับตั้งแต่ปี 2003

การรับประทานอาหารคนเดียวกลายเป็นเรื่องแพร่หลายมากขึ้นสำหรับทุกกลุ่มอายุ แต่โดยเฉพาะสำหรับคนหนุ่มสาว

รอน เลวีย์สังเกตว่าในขณะที่แรกเห็นการรับประทานอาหารร่วมกันอาจดูเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม แต่รายงานพบว่าคนที่รับประทานอาหารร่วมกันบ่อยๆ มีความสุขมากกว่า

ความสุขเกี่ยวข้องกับความไว้วางใจ การเชื่อมโยงทางสังคม ความสัมพันธ์ และมิติต่างๆ มากกว่า ไม่ใช่แค่ GDP หรือเงินเดือนที่สูงขึ้น สิ่งที่ทำให้ประเทศที่มีความสุขที่สุดแตกต่างคือความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งน่าไว้วางใจ การมองโลกในแง่ดีต่ออนาคต การกระทำที่เอื้อเฟื้อ และพื้นฐานความเชื่อในไมตรีจิตของผู้อื่น

คอสตาริกาและเม็กซิโกติดอันดับท็อป 10 เป็นครั้งแรก ซึ่งรอน เลวีย์กล่าวว่า แสดงให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเพื่อทำให้ผู้คนมีความสุข

การประเมินชีวิตในระดับสูงเป็นไปได้เมื่อความต้องการทางเศรษฐกิจขั้นพื้นฐานได้รับการตอบสนอง หนึ่งในข้อความสำหรับทุกประเทศคือความมั่งคั่งไม่เพียงพอที่จะทำให้ประชากรของคุณรู้สึกมีความสุขกับชีวิตและมีการประเมินชีวิตที่ดี

10 ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก

1. ฟินแลนด์

2. เดนมาร์ก

3. ไอซ์แลนด์

4. สวีเดน

5. เนเธอร์แลนด์

6. คอสตาริกา

7. นอร์เวย์

8. อิสราเอล

9. ลักเซมเบิร์ก

10. เม็กซิโก

เดนมาร์กเป็นประเทศที่มีความสุขอันดับ 2 ของโลกสำหรับปี 2025 ประเทศนี้อยู่ในอันดับท็อป 10 ใน World Happiness Report มานานกว่าทศวรรษ

เช่นเดียวกับฟินแลนด์และประเทศนอร์ดิกอื่นๆ ในรายการ ผู้คนในเดนมาร์กมีความสุขเพราะประเทศนี้มอบตาข่ายความปลอดภัยทางสังคม การเชื่อมโยงทางสังคม และคนหนุ่มสาวรู้สึกดีกับชีวิตของพวกเขาในสถานที่เหล่านี้

พวกเขาได้คะแนนสูงในด้านความเมตตาและเชื่อในไมตรีจิตพื้นฐานของผู้อื่น

แม้ว่าผู้คนในเดนมาร์กจะจ่ายภาษีที่สูงที่สุดในโลก สูงถึงครึ่งหนึ่งของรายได้ แต่ก็สมดุลกับข้อเท็จจริงที่ว่าการดูแลสุขภาพส่วนใหญ่ในประเทศนี้ฟรี การดูแลเด็กได้รับเงินอุดหนุน นักศึกษามหาวิทยาลัยไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียนและได้รับเงินช่วยเหลือเพื่อช่วยค่าใช้จ่ายระหว่างเรียน นอกจากนี้ ผู้สูงอายุได้รับเงินบำนาญและมีผู้ช่วยดูแล

ตามดัชนี OECD Better Life Index ประเทศนอร์ดิกนี้มีผลงานเหนือกว่าค่าเฉลี่ยในด้านงาน การศึกษา สุขภาพ คุณภาพสิ่งแวดล้อม การเชื่อมโยงทางสังคม การมีส่วนร่วมของพลเมือง และความพึงพอใจในชีวิต เดนมาร์กเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง OECD และ NATO