thansettakij
ยอดเสียชีวิตแผ่นดินไหวทะลุ 1,600 ราย เมียนมาวิกฤตซ้อนสงคราม

ยอดเสียชีวิตแผ่นดินไหวทะลุ 1,600 ราย เมียนมาวิกฤตซ้อนสงคราม

30 มี.ค. 2568 | 02:27 น.
อัปเดตล่าสุด :30 มี.ค. 2568 | 02:43 น.

เมียนมาเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ หลังแผ่นดินไหวคร่าชีวิตทะลุ 1,600 ราย การกู้ภัยเป็นไปอย่างยากลำบาก ขาดแคลนยา-อุปกรณ์ทางการแพทย์ ท่ามกลางสถานการณ์สงครามกลางเมือง

ความคืบหน้าแผ่นดินไหวเมียนมา ล่าสุดยังคงเผชิญวิกฤตซ้อนวิกฤต หลัง "แผ่นดินไหว" ครั้งใหญ่ ล่าสุดทางการรายงานยอดผู้เสียชีวิตพุ่งทะลุกว่า 1,600 ราย ขณะที่ความพยายามกู้ภัยยังเป็นไปอย่างยากลำบาก จากการขาดแคลนทั้งบุคลากร อุปกรณ์ และเส้นทางเข้าถึง ซึ่งถือเป็นภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดที่เกิดกับประเทศที่ยากจนและเต็มไปด้วยสงครามแห่งนี้ในรอบหลายปี

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประชาชนจำนวนมากยังติดอยู่ใต้ซากอาคาร ชาวบ้านผู้รอดชีวิตในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเมียนมาร์ ขุดดินด้วยมือเปล่า ท่ามกลางอาฟเตอร์ช็อกที่ยังเกิดขึ้นเป็นระยะ

ขณะเดียวกัน สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) ระบุว่า ซากปรักหักพัง ถนนที่ถูกตัดขาด และพื้นที่เข้าถึงยาก เป็นอุปสรรคสำคัญในการลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปในพื้นที่

เเผ่นดินไหวเมียนมาเข้าสู่ภาวะขาดเเคลน

สถานพยาบาลหลายแห่งเผชิญภาวะขาดแคลนอย่างรุนแรง ทั้งยาเวชภัณฑ์ ถุงเลือด ยาสลบ และอุปกรณ์ช่วยชีวิตเบื้องต้น ทำให้การดูแลผู้บาดเจ็บกลายเป็นภารกิจที่แทบเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะในเมืองที่ได้รับผลกระทบหนัก เช่น มัณฑะเลย์ มะกเว เนปิดอว์ สะกาย และอีกหลายเมืองในภาคใต้ เช่น ยองชเว กะลอ และปินหลวง

ทั้งนี้ OCHA รายงานว่า ขณะนี้มีประชาชนหลายพันคนต้องนอนกลางแจ้งหรือตามถนน เพราะไม่กล้าอยู่ในบ้านที่เสียหาย หรือกลัวจะเกิดแผ่นดินไหวซ้ำ

ความพยายามฟื้นฟูชีวิตผู้คน

เมียนมายังต้องเผชิญความรุนแรงจากสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมาต่อเนื่องตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อ 4 ปีก่อน รัฐบาลทหารยังคงไม่มีอำนาจควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ ทำให้การประสานงานด้านความช่วยเหลือยิ่งเต็มไปด้วยข้อจำกัด

แม้จะเพิ่งเผชิญภัยพิบัติร้ายแรง แต่กองทัพเมียนมายังคงเดินหน้าโจมตีทางอากาศในหลายพื้นที่ ทำให้สหประชาชาติออกมาประณามว่า “เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจและยอมรับไม่ได้” พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลทหารยุติปฏิบัติการทางทหารทันที เพื่อเปิดทางให้ความช่วยเหลือเข้าถึงประชาชนที่กำลังทุกข์หนัก