รอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า นายพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้สั่งเสริมกำลังทางทหารในภูมิภาคตะวันออกกลางด้วยเครื่องบินรบเพิ่มเติม ท่ามกลางปฏิบัติการทิ้งระเบิดในเยเมนที่ดำเนินมามากกว่าสองสัปดาห์และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นกับอิหร่าน
แม้ทางเพนตากอนไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าเป็นเครื่องบินประเภทใดหรือจะถูกส่งไปที่ใดอย่างแน่ชัด แต่แหล่งข่าวจากสหรัฐฯ เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า เครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 ประมาณ 6 ลำได้ถูกย้ายไปยังฐานทัพร่วมสหรัฐฯ-อังกฤษ บนเกาะดิเอโก การ์เซีย ในมหาสมุทรอินเดียในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับปฏิบัติการในตะวันออกกลาง
"หากอิหร่านหรือกลุ่มตัวแทนข่มขู่บุคลากรและผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในภูมิภาค สหรัฐฯ จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อปกป้องประชาชนของเรา" ฌอน พาร์เนลล์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าว
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่อิหร่านเมื่อวันอาทิตย์ว่าจะทิ้งระเบิดและใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการค้า หากเตหะรานไม่บรรลุข้อตกลงกับวอชิงตันเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์
เครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 มีเทคโนโลยีหลบหลีกการตรวจจับและสามารถบรรทุกระเบิดที่หนักที่สุดของสหรัฐฯ รวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า B-2 สามารถบรรทุกระเบิด GBU-57 Massive Ordnance Penetrator ขนาด 30,000 ปอนด์ ซึ่งเป็นอาวุธที่อาจถูกใช้โจมตีโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ขณะที่อิหร่านตอบโต้ผ่านผู้นำสูงสุดอายาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี ซึ่งกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า สหรัฐฯ จะได้รับการตอบโต้อย่างรุนแรงหากทรัมป์ดำเนินการตามคำขู่
นอกจากนี้ พลโทอามีราลี ฮาจิซาเดห์ ผู้บัญชาการกองกำลังอากาศของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) ยังเตือนว่าฐานทัพสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง "อยู่ในบ้านกระจก ไม่ควรขว้างหิน" พร้อมเน้นย้ำว่าสหรัฐฯ มีฐานทัพรอบอิหร่านอย่างน้อย 10 แห่งในภูมิภาค ซึ่งมีกำลังพลราว 50,000 นาย
สำนักข่าวทัสนิมของอิหร่านรายงานว่า IRGC ได้เปิดเผยฐานขีปนาวุธใต้ดินขนาดใหญ่ ซึ่งถูกเรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของ "กำปั้นเหล็ก" ที่แข็งแกร่งขึ้นของอิหร่าน โดยมีพลเอก โมฮัมหมัด บาเกรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพอิหร่าน และพลโทฮาจิซาเดห์เข้าร่วมในพิธีเปิด
ภาพที่เผยแพร่โดยสื่ออิหร่านหลายแห่งแสดงให้เห็นผู้บัญชาการระดับสูงตรวจเยี่ยมสถานที่ใต้ดินขนาดใหญ่ที่จัดเก็บขีปนาวุธโจมตีแม่นยำนับพันลูก ประกอบด้วยขีปนาวุธหลายรุ่น ได้แก่ Kheybar Shekan, Martyr Haj Qassem, Qadr-H, Sejjil และ Emad
ตามรายงาน ขีปนาวุธ Kheybar Shekan-1 มีความสามารถในการเอาชนะระบบต่อต้านขีปนาวุธ THAAD ของสหรัฐฯ ขณะที่ Kheybar Shekan-2 ได้รับการพัฒนาให้หลบหลีกระบบดังกล่าวได้ ส่วนขีปนาวุธ Qadr-H มีพิสัยไกลถึง 1,700 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีขีปนาวุธ Martyr Haj Qassem ซึ่งตั้งชื่อตามนายพล กอเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการต่อต้านการก่อการร้ายระดับสูงของอิหร่านที่ถูกสหรัฐฯ สังหารเมื่อต้นปี 2020
พลเอกบาเกรีกล่าวระหว่างการเยี่ยมชมว่า "กำปั้นเหล็กของอิหร่านแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก" และยืนยันว่าขีดความสามารถทางทหารของอิหร่านในปัจจุบันแข็งแกร่งกว่าที่ใช้ในปฏิบัติการ True Promise II ถึง 10 เท่า ซึ่งเป็นปฏิบัติการโจมตีอิสราเอลเมื่อปีที่แล้ว
ด้านนายอับบาส อาราคชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ยืนยันว่าเตหะรานจะไม่แสวงหาอาวุธนิวเคลียร์ "ภายใต้สถานการณ์ใดๆ" พร้อมเตือนว่าไม่มีสิ่งที่เรียกว่า "ทางเลือกทางทหาร" ในการแก้ไขปัญหากับอิหร่าน
ที่มา: รอยเตอร์, ทัสนิม