"ประธานอาเซียน" ขยับรับมือ "ภาษีทรัมป์" ยกหูถกผู้นำ 5 ชาติสมาชิก

นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนคนปัจจุบัน ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพผ่านเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Anwar Ibrahim เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมาระบุว่า วันนี้มีโอกาสได้หารือผ่านทางโทรศัพท์กับผู้นำประเทศในอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บรูไนดารุสซาลาม และสิงคโปร์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและประสานการตอบโต้ร่วมกันเกี่ยวกับประเด็นภาษีตอบโต้ของสหรัฐอเมริกา

ในฐานะประธานอาเซียน มาเลเซียต้องการให้เกิดความเห็นพ้องต้องกันระหว่างประเทศสมาชิกในการสร้างหลักการความยุติธรรมและความเท่าเทียมในการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างคู่เจรจาอาเซียน-สหรัฐฯ

นายอันวาร์ ระบุด้วยว่า การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐาอาเซียนที่จะมาถึงในสัปดาห์หน้าจะยังคงพิจารณาในเรื่องนี้ต่อไปและมองหาทางออกที่ดีที่สุดสําหรับประเทศสมาชิกทุกประเทศ

เวียดนาม-กัมพูชา ชิงเจรจาลดดีกรีร้อน

เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2568 หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาตรการเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้สินค้านำเข้าจากประเทศต่างๆ ส่งผลให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ถูกมองเป็นฐานการผลิตทดแทนจีนต้องเผชิญกับอัตราภาษีสูงลิบ ล่าสุดเวียดนามและกัมพูชาต่างเร่งหามาตรการรับมือและเสนอทางออกเพื่อบรรเทาผลกระทบ

เวียดนามยอมลดภาษีเหลือ 0% หวังพลิกสถานการณ์

ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดียว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโตเลิมของเวียดนาม โดยผู้นำเวียดนามแสดงความประสงค์ชัดเจนว่าพร้อมลดภาษีศุลกากรสินค้าสหรัฐลงเหลือ 0% เพื่อให้บรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสองประเทศ

ก่อนหน้านี้ เวียดนามได้ขอให้รัฐบาลสหรัฐชะลอการจัดเก็บภาษี 46% เป็นเวลา 3 เดือนระหว่างการเจรจา พร้อมทั้งวางแผนรับมือหลายประการ ทั้งการส่งเสริมการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐมากขึ้น การขจัดอุปสรรคทางการค้า และการปรับนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนและสินเชื่อเพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจที่อาจได้รับผลกระทบ

กัมพูชาส่งจดหมายถึงทรัมป์ ลดภาษีจาก 35% เหลือ 5%

ด้านนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งถูกกำหนดให้ต้องเสียภาษีศุลกากรสูงถึง 49% ได้ส่งจดหมายถึงประธานาธิบดีทรัมป์โดยตรง เสนอขอเจรจาโดยเร็วที่สุดและขอให้เลื่อนการจัดเก็บภาษีออกไปก่อน

ในจดหมายดังกล่าว นายกฯ กัมพูชาได้เสนอลดภาษีศุลกากรสินค้าสหรัฐ 19 ประเภทจากเดิม 35% เหลือเพียง 5% ทันที เพื่อแสดง "จิตวิญญาณแห่งการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าทวิภาคี" และมุ่งมั่นที่จะเจรจาอย่างสร้างสรรค์เพื่อให้ทั้งสองประเทศได้รับประโยชน์