อุตฯ รถยนต์เกาหลีใต้สะเทือนหนัก! ทรัมป์เก็บภาษีโหด 25% รัฐเร่งอุ้มก่อนทรุด

09 เม.ย. 2568 | 11:00 น.

เกาหลีใต้ประกาศมาตรการฉุกเฉิน เร่งอัดฉีดเงิน ลดภาษี-เพิ่มเงินอุดหนุน EV รับมือทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% กระทบส่งออกสหรัฐฯ หนัก

รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศมาตรการฉุกเฉินเพื่อพยุงอุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศ หลัง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และรถบรรทุกเบาจากต่างประเทศในอัตราสูงถึง 25% โดยมีผลบังคับใช้ในวันพฤหัสบดีนี้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ผลิตรถยนต์เกาหลีใต้ที่พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ เป็นหลักในการส่งออก

ภายใต้แผนรับมือฉุกเฉิน รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมเพิ่มวงเงินสนับสนุนทางการเงินให้กับภาคอุตสาหกรรมรถยนต์จากเดิม 13 ล้านล้านวอน เป็น 15 ล้านล้านวอนในปี 2025 หรือคิดเป็นมูลค่าราว 10.18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาสภาพคล่องของผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วน ที่อาจได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากมาตรการของสหรัฐฯ

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ โดยรัฐบาลจะปรับลดภาษีการซื้อรถยนต์จากอัตรา 5% เหลือ 3.5% ไปจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2025 และเพิ่มเงินอุดหนุนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จากเดิมที่อยู่ในช่วง 20%-40% เป็น 30%-80% ของราคาลดหย่อน พร้อมขยายระยะเวลาอุดหนุนออกไปอีก 6 เดือนจนถึงสิ้นปีนี้

รัฐบาลเกาหลีใต้ระบุว่า ด้วยสัดส่วนการผลิตรถยนต์ของผู้ผลิตเกาหลีใต้ในสหรัฐฯ ที่ยังต่ำ ทำให้ประเทศเสียเปรียบเชิงโครงสร้างในการรับมือกับภาษีใหม่นี้ “ผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมรถยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วนจะมีความรุนแรง แม้จะยังไม่สามารถประเมินเป็นตัวเลขที่แน่ชัดได้ในตอนนี้” ถ้อยแถลงของรัฐบาลระบุ

ขณะที่ในปี 2024 การส่งออกรถยนต์จากเกาหลีใต้ไปยังสหรัฐฯ มีมูลค่าสูงถึง 34.7 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการส่งออกรถยนต์ทั้งหมดของประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของอุตสาหกรรมรถยนต์เกาหลีใต้ต่อความเปลี่ยนแปลงของนโยบายการค้าสหรัฐฯ โดยเฉพาะเมื่อมาตรการภาษีใหม่นี้อาจทำให้ผู้ผลิตต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นในระยะสั้น และอาจต้องปรับแผนการผลิต รวมถึงพิจารณายกเลิกการนำเข้ารุ่นที่มียอดขายต่ำเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ในอนาคต

รัฐบาลยังให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมในประเทศ โดยระบุว่า “เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้สหรัฐฯ ไม่ปฏิบัติต่อเกาหลีใต้อย่างเสียเปรียบเมื่อเทียบกับชาติพันธมิตรอื่นๆ” แม้จะยังไม่มีรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์การเจรจาในขณะนี้

ในอีกด้านหนึ่ง รัฐบาลเตรียมสนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ในการขยายตลาดส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ “Global South” ซึ่งหมายถึงกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาในภูมิภาคแอฟริกา ละตินอเมริกา และเอเชีย ที่มีความต้องการรถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทางด้านอุตสาหกรรมรถยนต์เกาหลีใต้ได้ตอบรับมาตรการสนับสนุนของรัฐบาลอย่างระมัดระวัง โดยตัวแทนอุตสาหกรรมรายหนึ่งกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์โดยไม่เปิดเผยชื่อว่า “ยังมีความกังวลอยู่มากว่า มาตรการเพียงเท่านี้จะเพียงพอหรือไม่ จำเป็นต้องมีการหารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นตลาดภายในประเทศให้มากขึ้น”

บริษัทฮุนได มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของเกาหลีใต้ ได้ประกาศว่าจะตรึงราคาขายของรถรุ่นปัจจุบันในตลาดสหรัฐฯ ไว้เหมือนเดิมในช่วงสองเดือนข้างหน้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคว่า มาตรการภาษีของทรัมป์จะไม่ส่งผลกระทบต่อตัวแทนจำหน่ายและราคาปลีก โดยแผนดังกล่าวจะมีผลถึงวันที่ 2 มิถุนายนนี้ ทั้งนี้ ฮุนไดเพิ่งประกาศแผนการลงทุนในสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 21 พันล้านดอลลาร์เมื่อเดือนที่ผ่านมา และยืนยันว่าจะยังไม่ปรับขึ้นราคาขายในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นตลาดที่สร้างรายได้สูงสุดของบริษัท

นักวิเคราะห์หลายรายมองว่า การประกาศภาษีนำเข้าในอัตราสูงอาจเป็นเพียงกลยุทธ์เชิงต่อรองของทรัมป์ เพื่อบีบให้คู่เจรจายอมอ่อนข้อในการเจรจาข้อตกลงการค้า อย่างไรก็ดี มาตรการนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อโครงสร้างต้นทุนของอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก โดยเฉพาะห่วงโซ่อุปทานของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ยังต้องพึ่งพาชิ้นส่วนจากจีนเป็นหลัก ซึ่งอาจได้รับผลกระทบรุนแรงกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน

มาตรการฉุกเฉินของเกาหลีใต้ในครั้งนี้จึงถือเป็นความพยายามเชิงรุกในการรับมือกับแรงสั่นสะเทือนทางเศรษฐกิจจากภายนอก และป้องกันไม่ให้ภาคอุตสาหกรรมหลักของประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงความเปราะบางของห่วงโซ่การค้าโลกในยุคที่การเมืองระหว่างประเทศยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน