ทรัมป์ยุติสงครามแรงดันน้ำ ลั่นอาบน้ำในอเมริกาต้องยอดเยี่ยม

10 เม.ย. 2568 | 09:27 น.
อัปเดตล่าสุด :10 เม.ย. 2568 | 09:57 น.

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร ยุติข้อจำกัดแรงดันน้ำ เพื่อทำให้การอาบน้ำในอเมริกากลับมายอดเยี่ยมอีกครั้ง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อยกเลิกข้อจำกัดแรงดันน้ำในเครื่องใช้ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นฝักบัว เครื่องล้างจาน เครื่องซักผ้า หรือโถส้วม เป้าหมายเพื่อ "จะทำให้การอาบน้ำในอเมริกากลับมายอดเยี่ยมอีกครั้ง" (Make America’s Showers Great Again)

คำสั่งดังกล่าวสะท้อนความไม่พอใจที่ทรัมป์มีต่อกฎอนุรักษ์น้ำยุคโอบามา-ไบเดนมาโดยตลอด ซึ่งจำกัดปริมาณน้ำที่สามารถไหลออกจากฝักบัวและอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ โดยทรัมป์ระบุว่า กฎเหล่านี้ทำให้เขา “ต้องใช้เวลาถึง 15 นาทีในการอาบน้ำ เพราะน้ำไหลออกมาเป็นหยด ๆ” และยังทำให้ "ดูแลผมสวย ๆ" ของเขาได้ลำบาก

คำสั่งใหม่นี้มอบหมายให้ คริส ไรท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ดำเนินการยกเลิกกฎระเบียบของรัฐบาลกลางที่ออกโดยฝ่ายบริหารยุคเดโมแครต ซึ่งนิยามคำว่า “ฝักบัว” ใหม่ให้ครอบคลุมทุกหัวจ่ายน้ำในอุปกรณ์แบบรวม ทำให้การไหลของน้ำถูกควบคุมเข้มงวดมากขึ้น

ทำเนียบขาวระบุว่า "กฎเหล่านี้เปลี่ยนของใช้พื้นฐานในครัวเรือนให้กลายเป็นฝันร้ายทางระบบราชการ" พร้อมเน้นว่าคำสั่งนี้จะยุติสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "สงครามแรงดันน้ำ" และคืนประสิทธิภาพให้กับการใช้น้ำในชีวิตประจำวัน

ฝ่ายที่คัดค้านนโยบายนี้มองต่างออกไป โดยแอนดรูว์ เดอลาสกี ผู้อำนวยการบริหารโครงการประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (ASAP) ให้ความเห็นว่า หัวฝักบัวที่ขายในท้องตลาดทุกวันนี้ส่วนใหญ่ให้ประสบการณ์อาบน้ำที่ดีอยู่แล้วโดยไม่ต้องใช้น้ำในปริมาณมาก

เดอลาสกียังมองว่า คำสั่งของทรัมป์อาจเป็นเพียงกลยุทธ์เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายด้านประสิทธิภาพพลังงานที่มีมาตั้งแต่ปี 1992 และคาดการณ์ว่า คำสั่งนี้อาจมีผลในทางปฏิบัติน้อยมากเช่นเดียวกับช่วงดำรงตำแหน่งสมัยแรกของทรัมป์ ที่ผู้ผลิตแทบไม่เปลี่ยนแปลงสินค้าใด ๆ อย่างเป็นรูปธรรม

สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (EPA) ระบุว่า การใช้น้ำจากฝักบัวคิดเป็นสัดส่วนถึง 20% ของปริมาณน้ำใช้ภายในบ้าน และการใช้ฝักบัวประหยัดน้ำยังช่วยลดภาระด้านพลังงานได้ด้วย เนื่องจากการทำน้ำอุ่นคิดเป็นหนึ่งในห้าของการใช้พลังงานในครัวเรือนโดยเฉลี่ย

แม้คำสั่งดังกล่าวจะเป็นที่พอใจของบางกลุ่มผู้ใช้ที่มองว่าน้ำควรไหลได้เต็มที่ ทว่าอีกฝ่ายกลับกังวลว่า ท่าทีของรัฐบาลอาจบั่นทอนความพยายามด้านสิ่งแวดล้อมและประสิทธิภาพพลังงานที่ดำเนินมาตลอดหลายทศวรรษ