2560 ปีทอง‘ฟิลิปปินส์’ เสือติดปีกแห่งอาเซียน

07 ม.ค. 2560 | 14:00 น.
นิตยสารฟอร์จูนฉบับเดือนธันวาคม 2559 ตีพิมพ์รายงาน It’s the Philippines’ Year ระบุว่า ถึงแม้นโยบายกวาดล้างผู้มีอิทธิพลและผู้ค้ายาเสพติดแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน และท่าทีเป็นปฏิปักษ์กับสหรัฐอเมริกาของประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต จะสร้างความกังวลใจไม่ใช่น้อย แต่ปี 2560 จะเป็นปีทองแห่งการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศฟิลิปปินส์

นักเศรษฐศาสตร์คาดหมายว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของฟิลิปปินส์จะขยายตัวในอัตรา 6.2% ในปีนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งจะเป็นผลมาจากการเพิ่มงบเร่งผลักดันโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานของรัฐบาลฟิลิปปินส์นั่นเอง โดยเร็วๆนี้ รัฐบาลได้อนุมัติโครงการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานในส่วนของภาครัฐไปแล้ว 18 โครงการ

ภายใต้การบริหารประเทศของประธานาธิบดีดูเตอร์เตซึ่งมีระยะเวลา 6 ปี เขาประกาศเป็น“ยุคทองของโครงสร้างพื้นฐาน” ซึ่งจะใช้งบประมาณระหว่าง 8.2 ล้านล้านถึง 9 ล้านล้านเปโซ หนึ่งในนั้นเป็นแผนการก่อสร้างระบบขนส่งทางรางระยะทาง 600 กิโลเมตรจากย่านทูทูบันในใจกลางกรุงมะนิลา เมืองหลวง ไปยังจังหวัดซอร์โซกอนในเขตไบคอลทางภาคตะวันออกของประเทศ ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 250-300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเวลา 4-5 ปี

ประธานาธิบดีดูเตอร์เตเคยประกาศไว้ว่า นโยบายขับเคลื่อนโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศนั้นจะเป็นไปอย่างรวดเร็วเต็มกำลังและต่อเนื่องไม่หยุด รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไว้ที่ 8.61 แสนล้านเปโซในปี 2560 นี้

ดร.เบนจามิน ดิออคโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ในยุคของประธานาธิบดีอาคิโน 6 ปีก่อนหน้านี้ สัดส่วนของงบประมาณด้านโครงสร้างพื้นฐานต่อจีดีพีนั้นอยู่ที่ระหว่าง 2.7-2.9% เท่านั้น ผิดกับในยุคของประธานาธิบดีดูเตอร์เตที่จัดสรรงบทางด้านนี้ไว้ 7-8% ซึ่งนับว่าสูงเมื่อเทียบกับสัดส่วนที่เหมาะสมในระดับมาตรฐานคือ 5% ของจีดีพี “ปัจจุบัน ต้นทุนกู้ยืมในตลาดโลกนับว่าต่ำมากทำให้รัฐบาลสามารถเพิ่มการลงทุนในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและงานบริการสาธารณะด้านต่างๆ” รัฐมนตรีคลังฟิลิปปินส์กล่าว พร้อมทั้งระบุว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีดูเตอร์เตจะเร่งกระจายความเจริญและรายได้สู่ประชาชนในทุกภาคส่วน นอกจากนี้เพื่อช่วยขับเคลื่อนโครงการลงทุนต่างๆให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว จึงจะเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทในโครงการต่างๆมากขึ้นในลักษณะการร่วมทุนกับภาครัฐ (Private Public Partnership : PPP)

สำหรับโครงการขนาดใหญ่จำนวนมากที่กำลังรอการพิจารณาจากประธาธิบดีดูเตอร์เตว่าจะดำเนินการเมื่อไหร่และอย่างไรนั้น ครอบคลุมถึงการย้ายเมืองราชการออกไปยังพื้นที่ใหม่ และการก่อสร้างสนามบินระดับประเทศแห่งใหม่เพื่อระบายความแออัดให้กับท่าอากาศยานนานาชาตินินอยอาคิโนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้งบการลงทุนส่วนหนึ่งจะมาจากการกู้ยืมจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงธนาคารเอไอไอบีของจีน (ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย) ที่ฟิลิปปินส์เป็นสมาชิกและจะสามารถกู้ยืมในวงเงินปีละ 200-500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,224 วันที่ 5 - 7 มกราคม พ.ศ.2560