ฐานโซไซตี : "ประชาธิปัตย์" พรรคอันดับ 2 “อภิสิทธิ์” ตีตราจองเก้าอี้นายกฯ

11 มี.ค. 2562 | 13:30 น.

ฐานโซไซตี :  "ประชาธิปัตย์" พรรคอันดับ 2  “อภิสิทธิ์” ตีตราจองเก้าอี้นายกฯ
 
ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการหย่อนบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ ในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคมนี้ แทบทุกพรรคต่าง “งัดไม้เด็ด” มาสร้าง “เซอร์ไพรส์” สำหรับการหาเสียงหรือเป็นกลยุทธ์ในการเรียกคะแนนเสียงให้กับพรรคตัวเอง อย่างล่าสุด “มาร์ค-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ก็ได้ปล่อยคลิปเด็ดเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กตัวเอง แสดงจุดยืนทางการเมือง โดยมีความยาว 40 วินาที ด้วยประโยคที่ว่า

“ผมไม่มีวันยอมให้พรรคที่มีประวัติทุจริตมานำประเทศ ไม่เอาทั้งพวกบกพร่องโดยสุจริต หรือทุจริตเชิงนโยบาย เอาเสียงของประชาชนมาหาประโยชน์ให้กับคนกลุ่มเดียว นายกฯ 4 คนของประชาธิปัตย์ ไม่เคยมีมลทินเรื่องทุจริต รัฐมนตรีในรัฐบาลเรา มีเรื่องอื้อฉาวทุจริต ลาออกทันที เพราะสำหรับประชาธิปัตย์ ประชาธิปไตยจะใช้การได้ ต้องสุจริตเท่านั้น” และปิดท้ายด้วยว่า “หมดเวลาเกรงใจแล้วครับ”      

ฐานโซไซตี :  "ประชาธิปัตย์" พรรคอันดับ 2  “อภิสิทธิ์” ตีตราจองเก้าอี้นายกฯ
ฐานโซไซตี :  "ประชาธิปัตย์" พรรคอันดับ 2  “อภิสิทธิ์” ตีตราจองเก้าอี้นายกฯ

ว่ากันว่านี่เป็นการ “ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย” ของ อภิสิทธิ์ เลยทีเดียว ซึ่งเมื่อถอดรหัสจากคำพูดของ อภิสิทธิ์ ดังกล่าว แปลความหมายได้ว่า นี่คือการประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมรัฐบาลกับ “พรรคเพื่อไทย” และของ “ทักษิณ ชินวัตร” เพราะเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา หลังคลิปดังกล่าว เผยแพร่ออกไป อภิสิทธิ์ ก็ได้ยกคณะไปหาเสียงที่ภาคใต้ และกล่าวปราศรัยกับชาวยะลา ตอนหนึ่งระบุเกี่ยวกับพรรค “เพื่อไทย” ว่า ก่อนที่จะแตกออกมาเป็นพรรคพันธมิตรหลายพรรค ซึ่งพรรคการเมืองกลุ่มนี้สนับสนุนกลุ่มคนในรัฐบาลชุดที่แล้วที่เข้าไปบริหารประเทศ แล้วสุดท้ายจบลงที่การปฏิวัติ เพราะเกิดการประท้วงการทุจริตคอร์รัปชัน มีการออกกฎหมายที่ไม่ชอบ... ชัดเจนมั้ยล่ะที่ อภิสิทธิ์ บอกว่าจะไม่เอากับ “พรรคที่มีประวัติทุจริต” นั้นหมายถึงพรรคใด      

ฐานโซไซตี :  "ประชาธิปัตย์" พรรคอันดับ 2  “อภิสิทธิ์” ตีตราจองเก้าอี้นายกฯ

หากยังไม่ชัดเจน ลองย้อนไปดูก็ได้ว่าวลี “บกพร่องโดยสุจริต” นั้นเกิดขึ้นมาในสมัยที่ ทักษิณ ชินวัตร เจอคดีซุกหุ้น ภาค 1 ในปี 2544 ซึ่งในเวลานั้น ทักษิณ ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดฐานจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ จากกรณีซุกหุ้นไว้กับคนใช้และคนขับรถ คดีนี้เมื่อถึงมือศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากผิดจริง ทักษิณ ต้องหลุดจากเก้าอี้นายกฯ แต่ระหว่างการพิจารณาคดี ทักษิณ ให้การว่ามิได้จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินอันเป็นเท็จ แต่ผู้ช่วยหรือเลขานุการของเขาเป็นผู้ดำเนินการแทน หากมีความผิดพลาดในการยื่นแสดงบัญชีฯ ที่ไม่ถูกต้องก็เป็นเพียงความบกพร่องของตนเอง โดยมิได้มีเจตนาทุจริตแต่อย่างใด สาเหตุเกิดขึ้นจากการ “บกพร่องโดยสุจริต” ไม่ควรต้องถูกลงโทษตามรัฐธรรมนูญ ผลปรากฏว่าในที่สุดศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ ทักษิณ พ้นผิดด้วยคะแนนเสียง 8 ต่อ 7 (ท่ามกลางกระแสข่าวการวิ่งเต้นตุลาการบางคนในขณะนั้น)
       

หรืออย่างคำว่า “ทุจริตเชิงนโยบาย” ต้นตอก็เกิดมาจากสมัยรัฐบาลไทยรักไทย ของ ทักษิณ บริหารประเทศ และมีการแปลงสัญญาสัมปทานมือถือเป็นภาษีสรรพสามิต เมื่อเข้าสู่ระบบภาษีสรรพสามิต ก็มีการลดภาษีสรรพสามิตลงมา ทำให้บริษัทในเครือข่ายของทักษิณเสียภาษีน้อยลง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ คิดเป็นมูลค่านับแสนล้านบาท นำไปสู่การดำเนินคดีอดีตรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง จนติดคุกติดตะรางมาแล้ว         


ในการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคมนี้ มีการประเมินว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะได้จำนวนที่นั่งส.ส.มาเป็นอันดับ 2 โดยมี เพื่อไทย มาเป็นอันดับ 1และพลังประชารัฐ มาเป็นอันดับ 3 หากเป็นเช่นนี้ โอกาสที่ ประชาธิปัตย์ จะไปร่วมรัฐบาลกับ เพื่อไทย คงเป็นไปได้ยาก เว้นเสียแต่ว่า เพื่อไทย โดย ทักษิณ ยอมยกเก้าอี้นายกฯ ให้ประชาธิปัตย์ แล้ว อภิสิทธิ์ ยอม “เสียสัตย์” ดังนั้นทางเลือกของ อภิสิทธิ์ เหลือทางเดียวคือ จับมือกับพลังประชารัฐ และพรรคที่ไม่ใช่เครือข่ายทักษิณเพื่อจัดตั้งรัฐบาล(ต้องไม่ลืมว่าพลังประชารัฐที่ชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ นั้น มีส.ว.250 คน ที่มีส่วนโหวตตั้งนายกฯ อยู่ในมือ” ส่วนเก้าอี้นายกฯ คนที่ 30 จะเป็นของใครนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการต่อรองกัน แต่บอกได้ว่า ประชาธิปัตย์ จะมีอำนาจต่อรองสูงมาก...

           

 

|คอลัมน์ : ฐานโซไซตี
|โดย : ว.เชิงดอย
|หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3451 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 10-13 มี.ค.2562 
ฐานโซไซตี :  "ประชาธิปัตย์" พรรคอันดับ 2  “อภิสิทธิ์” ตีตราจองเก้าอี้นายกฯ