Nissan Go Anywhere รุ่นไหน...ก็ลุยได้ทุกที่

03 พ.ค. 2562 | 03:45 น.

ช่วงนี้เห็นนิสสันเร่งเครื่อง ลุยทำตลาดรถอเนกประสงค์แบบเต็มสูบในทุกมิติ ส่วนหนึ่งเพราะมีโปรดักต์ครบมือ ทั้งเอสยูวี “เอ็กซ์-เทรล” ที่เพิ่งไมเนอร์เชนจ์ รวมถึงพีพีวี “เทอร์ร่า” ที่เน้นฟังก์ชันความคุ้มค่าพร้อมขุมพลังใหม่ดีเซล 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ และปิกอัพคู่บุญ “นาวารา”
    ล่าสุดจัดกิจกรรมเพื่อแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะผ่านการใช้งานจริง กับ “Nissan Intelligent Driving Experience (N.I.D.E.) Go Anywhere” ชวนสื่อมวลชนขับรถในรูปแบบคาราวานข้ามประเทศ โดยเริ่มต้นจากไทย และสิ้นสุดการเดินทางที่ประเทศเมียนมา รวมระยะทางกว่า 2,900 กิโลเมตร

Nissan Go Anywhere รุ่นไหน...ก็ลุยได้ทุกที่

Nissan Go Anywhere รุ่นไหน...ก็ลุยได้ทุกที่
    นิสสัน เอ็กซ์-เทรล, เอ็กซ์-เทรล ไฮบริด, เทอร์ร่า และ นาวาร่า ต้องผ่านบททดสอบจากหลากหลายสภาพเส้นทางทั้งทางตรง ทางเรียบ ทางขรุขระ ขึ้นเขาลงห้วย ซึ่งกิจกรรมนี้นอกจากจะได้สัมผัสกับสมรรถนะของรถหลายรุ่นแล้ว ยังได้ลองใช้เทคโนโลยีต่างๆที่นิสสันพยายามปูทางและบอกเล่ามาโดยตลอดผ่านนิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility)
    ส่วนระยะทางที่ยาวกว่า 2,900 กิโลเมตร ทำให้การขับขี่ต้องแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มแรกจะเริ่มต้นจากกรุงเทพมหานคร มายังกาญจนบุรี และเข้าสู่เมียนมา ผ่านจุดสำคัญอย่างทวาย มะละแหม่ง และสิ้นสุดที่ย่างกุ้ง รวมระยะทางของกลุ่มแรกคือ 1,029 กิโลเมตร ส่วนกลุ่มที่ 2 มารับไม้ต่อและเริ่มจากย่างกุ้ง เข้าสู่เนปิดอว์ พุกาม สิ้นสุดที่มัณฑะเลย์ รวมระยะทาง 866 กิโลเมตร และกลุ่มที่ 3 ที่มาปิดทริปจะเริ่มต้นจากมัณฑะเลย์ เข้าสู่อินเล และวิ่งเข้าสู่ชายแดนประเทศไทยผ่านทาขี้เหล็ก เข้าเชียงราย เบ็ดเสร็จรวมระยะทางของกลุ่มนี้คือ 1,015 กิโลเมตร
    “ฐานยานยนต์”ร่วมกิจกรรมในกลุ่ม 2 และมีโอกาสได้สัมผัสกับนิสสัน เอ็กซ์-เทรล ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 171 แรงม้า ที่เริ่มเดินทางจากย่างกุ้ง ไปสิ้นสุดที่ เนปิดอว์ เป็นระยะทาง 362 กิโลเมตร ส่วนวันที่ 2 จากเนปิดอว์ มายังพุกาม ระยะทาง 270 กิโลเมตร และปิดทริปวันที่ 3 ด้วยเอ็กซ์-เทรล ไฮบริด ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 144 แรงม้า ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 41 แรงม้า เป็นพาหนะการเดินทางจากพุกามมาสิ้นสุดยังมัณฑะเลย์ ระยะทาง 234 กิโลเมตร

Nissan Go Anywhere รุ่นไหน...ก็ลุยได้ทุกที่

Nissan Go Anywhere รุ่นไหน...ก็ลุยได้ทุกที่
    จุดสตาร์ตในครั้งนี้เริ่มจากเมืองย่างกุ้ง ซึ่งช่วงแรก ยังเป็นชุมชน มีความเป็นเมือง ทำให้การขับขี่ในช่วงนี้ต้องระมัดระวังกันสักนิด เพราะต้องปรับให้คุ้นชินกับการขับชิดเลนขวา (ทั้งๆ ที่รถในประเทศเป็นรถพวงมาลัยขวา!)ต่างจากเมืองไทยที่ชิดเลนซ้าย แต่หลังจากวิ่งไปได้สักระยะหนึ่ง ขบวนคาราวานต้องเข้าสู่ทางด่วน เพื่อมุ่งตรงไปยังเนปิดอว์
     ระหว่างการเดินทางในช่วงนี้เองได้มีโอกาสสัมผัสกับระบบ ควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Cruise Control-ICC) ของเอ็กซ์เทรล ใหม่ ซึ่งถือว่าช่วยผ่อนแรงคนขับได้เยอะ เพราะถนนบนทางด่วนของเมียนมามีการจำกัดความเร็ว แถมเส้นทางที่วิ่งตรงยาว ทำให้สามารถใช้งานระบบดังกล่าวได้ และผลของการใช้ถือว่าตอบสนองได้ดี ลดภาระของคนขับและมีการรักษาระยะห่างของรถคันหน้าอย่างเหมาะสม
    เมื่อเดินทางมาถึงเนปิดอว์ในยามเย็น ขบวนคาราวานได้แวะชมเจดีย์อุปปาตสันติ ที่จำลองแบบมาจากมหาเจดีย์ชเวดากอง ที่เมืองย่างกุ้ง หลังจากนั้นขบวนเริ่มเดินทางกลับ ซึ่งแม้จะเป็นเวลาคํ่าคืน แต่เทคโนโลยีเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assist)ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการปรับไฟหน้าโดยอัตโนมัติ ด้วยการลดไฟสูงลงเพื่อไม่ให้รบกวนรถคันอื่นขณะขับสวนในอีกช่องทาง ก่อนจะปรับกลับมาเป็นไฟสูงตามต้องการอีกครั้ง
    เช้าวันที่ 2 ขบวนเริ่มออกเดินทางจากเนปิดอว์ มุ่งตรงไปยังเมืองพุกาม เพื่อไปยลกับทะเลเจดีย์ ที่มีมากกว่า 3,000 เจดีย์ ไฮไลต์ในช่วงนี้คือถนน 10 เลนของเมืองเนปิดอว์ ที่ต้องบอกว่ากว้างใหญ่ไพศาลชนิดที่เครื่องบินสามารถมาลงจอดได้
    ไฮไลต์ต่อมาของวันที่ 2 คือการเดินทางมาพุกาม ที่แม้เส้นทางบางช่วงจะขรุขระ เป็นทางขึ้นลงเขา สลับหมู่บ้าน สลับทางด่วนที่ 2 ข้างทางดูแห้งแล้ง รวมไปถึงทางฝุ่น แต่ขบวนคาราวานนิสสันทุกคันก็ผ่านมาได้ฉลุย แถมยังได้สัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวหลายจุดไม่ว่าจะเป็นสถานีรถไฟพุกาม และปิดท้ายด้วยการชมพระอาทิตย์ตกดินที่ทะเลเจดีย์
    การเดินทางในวันสุดท้าย “ฐานยานยนต์” สลับมานั่งเอ็กซ์-เทรล ไฮบริด ที่จะนำพาไปยังจุดหมายปลายทางคือมัณฑะเลย์ ซึ่งสัมผัสแรกที่แตกต่างระหว่างเครื่องยนต์ปกติและไฮบริดคือความเงียบ ชนิดที่สตาร์ตแล้วยังไม่รู้สึก พร้อมออกแบบห้องโดยสารรองรับผู้โดยสารตอนหน้า และตอนหลัง ให้นั่งสบาย ซึ่งทริปนี้ใช้เดินทางไกล ก็ไม่รู้สึกปวดเมื่อย หรือเหนื่อยล้ามากนัก

Nissan Go Anywhere รุ่นไหน...ก็ลุยได้ทุกที่

Nissan Go Anywhere รุ่นไหน...ก็ลุยได้ทุกที่

Nissan Go Anywhere รุ่นไหน...ก็ลุยได้ทุกที่
    อีกฟังก์ชันที่ใช้จนคุ้มคือประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติ (Hands-free Auto Lift Gate) เพราะเปลี่ยนที่นอนตลอดทริป ทำให้ต้องโยกย้ายสัมภาระขึ้น-ลง แต่ด้วยฟังก์ชันดังกล่าวถือว่าช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน แถมพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระก็ไม่ต้องห่วง กว้างขวาง จุได้เยอะ
    เรียกว่าปิดทริปได้อย่างสมบูรณ์แบบ และส่งต่อให้กับกลุ่ม 3 ส่วนใครที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้และกำลังมองหารถอเนกประสงค์ หรือเอสยูวีแท้ๆสามารถไปทดลองขับ “เอ็กซ์เทรล ใหม่” ได้ที่โชว์รูมนิสสัน ส่วนจะถูกใจใช่เลย หรือไม่ถูกจริต อันนี้ก็ว่ากันตามความชอบของแต่ละคน สนนค่าตัวในรุ่นเบนซิน 1.35ล้านบาท และไฮบริด 1.537 ล้านบาท 

 

หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,466 วันที่ 2-4 พฤษภาคม 2562

Nissan Go Anywhere รุ่นไหน...ก็ลุยได้ทุกที่