“กสิกรไทย-เวิลด์แบงก์ ชี้ความไม่แน่นอนสงครามการค้า ห่วงฉุดส่งออก ประเมินจีดีพีไตรมาสแรกโต 3.2% คาดครึ่งปีแรกเงินบาทแตะ32บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด(มหาชน)หรือ KBANK เปิดเผยว่า สถานการณ์เจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนนั้นมีโอกาสยืดเยื้อ ซึ่งภาพรวมนักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่า มีโอกาส 22% ที่เศรษฐกิจประเทศหลักจะเข้าสู่ภาวะถดถอยภายใน 1 ปีข้างหน้า เนื่องจาก 2-3 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจขยายตัวค่อนข้างเร็ว จึงเหมือนเศรษฐกิจต้องการพักเหนื่อย แต่สงครามการค้าผสมโรงฉุดเศรษฐกิจให้ชะลอตัวมากกว่าปกติ
อย่างไรก็ตาม ธนาคารรอประเมินผลกระทบต่อการส่งออกไทย ซึ่งสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) จะประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรกในวันที่ 21พฤษภาคม 2562 ซึ่งธนาคาร ประเมินจีดีพีไตรมาสแรกไว้ที่ 3.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ละทั้งปีคาดไว้ที่ 3.7% แต่มีโอกาสจะที่ขยายตัวต่ำมากกว่า
สำหรับทิศทางเงินบาท ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา แข็งค่าขึ้น 3.9% และคาดครึ่งปีแรก จะแข็งค่าแตะที่ระดับ 32บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่แนวโน้มช่วงที่เหลือทั้งปัจจัยสงครามการค้า หรือการท่องเที่ยวที่หมดไปช่วงสงกรานต์ และการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนอีก 1.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ กดดันใหเงินบาท้ผันผวนในทิศทางอ่อนค่าลงในระยะต่อไป
ด้านนายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญานัก เศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำประเทศไทย ธนาคารโลกกล่าวว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีความไม่แน่นอนมากขึ้น หากส่งผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐหรือจีนชะลอตัวย่อมกระทบภาคส่งออกและเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตาม ภาพรวมภูมิภาคเอเซียนั้นมีอุปสงค์ในประเทศแข็งแกร่งทั้งไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ แม้ภาคส่งออกจะแผ่วแต่อุปสงค์ภายในและภารการท่องเที่ยวยังเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
"เรามองเศรษฐกิจจีนโต 6% ชะลอตัวค่อยเป็นค่อยไป แม้นักลงทุนมีความกังวลแต่ยังไม่เห็นผลกระทบในจีนแต่ในไทยเริ่มมีผลการลงทุนชะลอลงแต่คาดว่าตัวเลขคาดการณ์ใหม่จะออกมาเดือนกรกฎาคมโดยกำลังทบทวนตัวเลขที่ประเมินการเติบโตปีนี้ไว้ 3.8% ปีหน้า 3.9% ปัจจัยหลักมาจากอุปสงค์ในประเทศ และการลงทุนทั้งภาครัฐเอกชน"
สำหรับปัจจัยการเเมืองในประเทศไทย ขณะนี้ยังมองว่าโครงการลงทุนภาครัฐในระยะ 1-2ปีที่ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างแล้วสามารถเดินหน้าต่อเนื่อง ซึ่งหลายโครงการอยู่ระหว่างประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่รอดูโครงการขนาดใหญ่ที่จะเกิดใน 3 ปีข้างหน้า