กรุงไทย เปิดขาย KT-EMEQ เจาะตลาดเกิดใหม่

20 มิ.ย. 2562 | 08:42 น.

KTAM เปิด IPO กองทุน KT-EMEQ วันนี้ถึง 25 มิ.ย. เจาะตลาดเกิดใหม่เพิ่มทางเลือกสร้างผลตอบแทนระยะยาว

               นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)หรือ KTAM เปิดเผยว่า บริษัทเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนในการกระจายพอร์ตการลงทุน เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีในระยาวยาวเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดเคแทม อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ตส์ อิควิตี้ ฟันด์ ( KT-EMEQ) ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 25 มิ.ย. 2562 ด้วยมูลเงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท

กรุงไทย เปิดขาย KT-EMEQ เจาะตลาดเกิดใหม่

               ทั้งนี้กองทุน KT-EMEQ เน้นลงทุนในกองทุนรวมวอนทาเบล ฟันด์ - เอ็มทีเอ็กซ์ ซัสเทนเนเบิ้ล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ตส์ ลีดเดอร์ส ฟันด์ ซึ่งบริหารโดย วอนทาเบล แอสเซท แมเนจเม้นท์ ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา โดยเฟ้นหาหุ้นที่โดดเด่นที่สุด และมีความสามารถในการทำกำไรที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอุตสาหกรรมต่างๆ ในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) รวมถึงหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง และดำเนินกิจการอย่างยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG)

อย่างไรก็ตาม กองทุน KT-EMEQ มีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวโดยผลการดำเนินงานของกองทุนรวมหลัก ณ วันที่ 30 พ.ค. 2562 YTD ( 2 ม.ค.- 31 พ.ค. 62 ) อยู่ที่ 7.31 % ย้อนหลัง 3 ปีเฉลี่ยอยู่ที่ 14% ต่อปี และย้อนหลัง 5 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ 8.22% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าดัชนีอ้างอิง โดยผลตอบแทนย้อนหลัง YTD อยู่ที่ 4.19 % ย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 10.28% ต่อปี และ ย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 2.16% ต่อปี

               “มองว่า หุ้นตลาดเกิดใหม่ เป็นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนสูงในระยะยาว เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ซึ่งช่วงที่เหลือปีนี้ น่าจะได้รับปัจจัยสนับสนุนหลายประการ เช่น ดอลลาร์สหรัฐฯ แนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ขณะที่จีนและประเทศต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนมีแนวโน้มเพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ตลอดจนความชัดเจนทางการเมืองภายหลังการเลือกตั้งในหลายประเทศทั้ง แอฟริกาใต้ อินโดนีเซีย อินเดีย ไทย”

ดังนั้นเมื่อตลาดปรับตัวรับกับปัจจัยดังกล่าวได้ คาดว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวและเป็นเวลาที่ดี เนื่องจากตลาดเกิดใหม่ถูกกดดันมานาน และราคาหุ้นอยู่ในระดับที่ถูกมาก ส่วนปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดเกิดใหม่มีอัตราการเติบโตที่ดีในอนาคต เนื่องจากประชากรในหลายๆ ประเทศ เช่น บราซิล อินเดีย ฟิลิปปินส์  มีจำนวนประชากรอายุยังน้อยจำนวนมากต่อไปจะเติบโตเป็นวัยแรงงาน ดังนั้นการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจก็จะสูงขึ้น ชนชั้นกลางมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทำให้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆยังต้องลงทุนอีกมากในอนาคต การลงทุนในสินทรัพย์ที่คาดว่าจะชนะเงินเฟ้อน่าจะเป็นหุ้นในตลาดเกิดใหม่

กรุงไทย เปิดขาย KT-EMEQ เจาะตลาดเกิดใหม่