รมว. อุตสาหกรรมเตรียมขอสนับสนุนเงินจากสำนักงบประมาณสร้างมาตรฐานเพื่อเอสเอ็มอี พร้อมกำชับ สมอ. เร่งรัดดำเนินการกำหนดมาตรฐานตามกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายให้ครอบคลุมสอดคล้องตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรม
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการมอบนโยบายให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ว่า เตรียมเดินหน้าของบประมาณจากสำนักงบประมาณเพื่อนำมาสนับสนุนโครงการผลักดันมาตรฐานอุตสาหกรรม เอส หรือ มอก.เอส เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็ทอี (SME) นำมาตรฐานไปใช้ในการพัฒนายกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการให้เป็นไปตามมาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าและบริการของผู้ประกอบการ SME พร้อมทั้งเร่งดำเนินการกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรม เอส ซึ่งเป็นมาตรฐานเฉพาะสำหรับ SME ให้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สมอ. มีแต่การออกมาจรฐานให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชน ยังไม่มีมาตรฐานสำหรับเอสเอ็มอี ดังนั้น จึงมองว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ควรจะต้องเร่งดำเนินการ โดยการของบประมาณดังกล่าวจะถูกนำมาสนับสนุนในเรื่องของการออกมาตรฐานเอส เนื่องจากในอดีตการขอมาตรฐานดังกล่าวจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ซึ่งเป็นต้นทุนสำหรับเอสเอ็มอี และมีผลทำให้เอสเอ็มอีไม่ได้ให้ความสนใจในการเข้ามายื่นขอเท่าใดนัก โดยหากสามารถได้งบประมาณมาเพื่อสนับสนุน ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเอสเอ็มอี และ สมอ.ได้เร่งดำเนินการได้มากขึ้น
“มอก.เอส จะเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SME นำมาตรฐานไปใช้ เพื่อพัฒนายกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการให้เป็นไปตามมาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าและบริการของผู้ประกอบการ SME พร้อมทั้งเร่งดำเนินการกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรม เอส ซึ่งเป็นมาตรฐานเฉพาะสำหรับ SME ให้มากยิ่งขึ้น” นายสุริยะกล่าวและว่า
อย่างไรก็ดี ยังให้เร่งรัดดำเนินการกำหนดมาตรฐานตามกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve) ให้ครอบคลุมสอดคล้องตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรม และให้ปรับปรุงกระบวนการกำหนดมาตรฐานให้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยให้ศึกษาแนวทางการกำหนดมาตรฐานกับต่างประเทศ และถ่ายโอนงานให้องค์กรกำหนดมาตรฐาน (Standards Developing Organization-SDOs) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำหนดมาตรฐานที่ สมอ. พัฒนาและขึ้นทะเบียนไว้ ทั้งนี้ ได้ประสานสภาอุตสาหกรรมให้เข้ามาช่วยผลักดันเรื่องนี้อีกทางหนึ่งแล้วด้วย
นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ EEC โดยเร่งรัดการก่อสร้างศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล เพื่อช่วยในการพัฒนาอุตสาหกรรมยางล้อและชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และยังเป็นการดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศให้มาลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องในพื้นที่ EEC สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่โดยรอบศูนย์ฯ อีกด้วย
“ศูนย์ทดสอบยานยนต์จะได้รับงบประมาณเพิ่มเติมปี 2563 หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผลงานในการดำเนินการในการนำไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งหมายถึงการดำเนินการเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง และกระบวนการต่างๆ หากสามารถทำผลงานได้ดี คาดว่าก็จะได้รับงบประมาณต่อไป โดยหากทำได้สำเร็จเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมรถยนต์อย่างมาก”
อย่างไรก็ตาม ยังให้เข้มงวดการตรวจติดตามและควบคุมดูแลสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานในท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญของ สมอ. เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้าอุตสาหกรรม
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า สมอ. จะเร่งรัดดำเนินการตามที่ท่านรัฐมนตรีฯ ให้นโยบายอย่างเข้มงวด พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ สมอ. ทุกระดับรับไปปฏิบัติ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์สูงสุดในการดำเนินธุรกิจและผู้บริโภคได้รับการคุ้มครองจากการใช้สินค้าที่ได้มาตรฐาน
สำหรับในส่วนของมาตรฐานเอสนั้น ปัจจุบันยังคืบหน้าไปได้ไม่มาก เนื่องจากเอสเอมอียังรู้ไม่มาก อีกทั้งยังไม่มีทุนทรัพย์ที่จะมาดำเนินการ เพราะการยื่นขอต้อเสียค่าทดสอบ หากได้งบประมาณมาสนับสนุนก็น่าจะช่วยให้เอสเอ็มอีเข้ามายื่นขอมาตรฐานกันมากขึ้น
ขณะที่การตรวจติดตามและควบคุมดูแลสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานในท้องตลาดนั้น สมอ.ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยผลจากการเช้าจับกุมหรือทลายโรงงานผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานหลายโรงงานที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าไม่ได้มาตรฐานเข้ามาขอยื่นขอมาตรฐานเพิ่มประมาณ 40% จากที่ผ่านมา ซึ่งหากยังเข้มงวดต่อไปเชื่อว่าน่าจะมายื่นขอมาตรฐานมากกว่านี้ และผู้บริโภคก็จะได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก