นึกว่าหนัง Sci-fi...ส่อง“สองตัวพ่อ”คุยงาน AI โลก

30 ส.ค. 2562 | 01:39 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

  • เป็นครั้งแรกที่แจ็ค หม่า และ อีลอน มัสก์เจอกันและคุยถึงอนาคตโลกใบนี้
  • เวทีดีเบตความเห็นเรื่องเอไอมีประเด็นที่สองคนเห็นไม่ตรงกัน
  • อีลอน มัสก์ แนะให้มนุษย์เป็นผู้ควบคุมเอไอ “เชื่อมสมองมนุษย์เข้ากับคอมพิวเตอร์”
  • ประเด็นประชากรล้นโลกเป็นสิ่งที่คลาดเคลื่อนทั้งสองมองว่าประชากรโลกจะน้อยลงเรื่อยๆ
    เจ้าพ่อค้าออนไลน์ของจีนกล่าวว่า ค่อนข้างมองเอไอในแง่บวก และไม่มีอะไรที่น่าหวาดกลัว แต่มัสก์กลับไม่คิดเช่นนั้น เขามองว่า เทคโนโลยีนั้นจะก้าวไปอย่างรวดเร็วเกินว่าที่ความสามารถของมนุษย์นั้นจะตามทัน  แม้ทั้งสองจะมีความเห็นที่ไม่ตรงกันเรื่องนี้ แต่มีประเด็นที่เห็นตรงกันคือปัญหาใหญ่ที่โลกกำลังเผชิญ “ประชากรที่น้อยลงเรื่อยๆ”

เวทีดีเบตนี้ใช้เวลา 45 นาที เป็นเวทีเปิดงาน การประชุม AI โลก หรือ  World AI Conference (WAIC) ในเซี่ยงไฮ้

บนเวทีนี้แจ็ค หม่า ให้ความเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาของเครื่องจักรกลในการทำงานที่จะเรียนรู้และพัฒนาในอนาคต เป็นสิ่งที่มนุษย์นั้นแสดงออกมาว่าพวกเขาคิดอย่างไร โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า “เมื่อมนุษย์เข้าใจตัวเองมากขึ้น พวกเขาก็สามารถที่จะทำให้โลกนี้ดีขึ้น” ยิ่งไปกว่านั้น แจ็ค หม่ายังทำนายว่า ไอเอ จะสร้างงานใหม่ๆที่ทำให้มนุษย์มีเวลามากขึ้น และกลายเป็นศูนย์กลางของความคิดสร้างสรรค์

“ผู้คนควรทำงาน 3 วัน/สัปดาห์ 4ชั่วโมง/วัน” และในยุคของเอไอ คนจะมีชีวิตยืนยาวได้ถึง 120 ปี เมื่อเวลานั้นมาถึง โลกใบนี้จะมีงานที่ไม่มีใครอยากทำมากขึ้น เราจำเป็นต้องมีหุ้นยนต์เอไอที่จะเข้ามาทำงานแทน เช่นการูแลผู้สูงอายุ และในความเห็นของผมเกี่ยวกับเรื่องงาน ไม่ต้องกังวลไป พวกเราทุกคนยังมีงานทำ” แจ๊ค หม่ากล่าวบนเวที

ในทางกลับกัน อีลอน มัสก์ กลับมองว่า ปัญหาคนว่างงานเป็นเรื่องที่ต้องตระหนักอย่างจริงจัง เอไอจะทำให้งานทุกอย่างไม่มีจุดมุ่งหมาย บางทีงานที่จะเหลือสุดท้ายบนโลกใบนี้คืองานเขียนโปรแกรม  AI  และอาจเลวร้ายที่สุดคือ ไอเออาจจะไม่ต้องการมนุษย์ให้เขียนโปรแกรม มันอาจจะเขียนด้วยตัวมันเอง”

มัสก์กล่าวเพิ่มเติมว่า นี่เป็นความเสี่ยงและจุดจบของมนุษยชาติในการใช้ชีวิต เพื่อเลี่ยงสิ่งที่จะเกิดขึ้น “เราต้องหาวิธีการที่จะเชื่อมต่อสมองของมุนษย์ให้เข้ากับคอมพิวเตอร์ และเป็นผู้ที่อยู่เหนือเอไอและควบคุมมัน (ซึ่งก่อนหน้านี้มักซ์ได้เริ่มสร้างบ.สตาร์ทอัพที่ทำในเรื่องนี้ไปแล้ว)

แต่แจ๊ค หม่าก็แย้งความคิดนี้ว่า การไล่ต้อนของเอไอกับมนุษย์ก็เหมือนกับการเล่นหมากรุกหรือหมากล้อม  “อย่าไปกังวลเรื่องจักรกล แน่นอน สิ่งหนึ่งที่เรามั่นใจได้ มุนษย์ไม่สามารถสร้างมนุษย์อีกคนได้ คอมพิวเตอร์คือคอมพิวเตอร์  คนไม่สามารถสร้างสิ่งที่เป็นธรรมชาติได้ มนุษย์ควรมีความมั่นใจว่า คอมพิวเตอร์มีเพียงแค่ชิป มนุษย์มีหัวใจ ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของความอัฉจริยะบนโลกใบนี้” และยังบอกเพิ่มเติมด้วยว่า สิ่งที่มนุษย์ต้องมีมากกว่าเดิม คือความคิดสร้างสรรค์

ก่อนจะปิดเวที ทั้งสองได้ถกเถียงกันเรื่อง ความคลาดเคลื่อนในการมองประเด็นประชากรล้นโลก ซึ่งทั้งสองต่างมองตรงกันว่าประชากรโลกจะน้อยลงไปเรื่อยๆ  แจ็ค หม่ายังคงเน้นย้ำว่า เอไอจะช่วยให้มนุษย์มีชีวิตยืนยาวขึ้น แข็งแรงขึ้นและแก้ปัญหาประชากรคลาดแคลนได้