สงครามการค้าพ่นพิษ ! กระทบส่งออกรถยนต์

วิจัยกรุงศรีคาดสงครามการค้า จีน – สหรัฐ กระทบส่งออกรถยนต์ของไทย ด้านตลาดในประเทศหดตัวต่อเนื่อง เหตุจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว – หนี้ครัวเรือนสูง

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกรุงศรีเปิดเผยถึงภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์รายไตรมาส โดยประเมินว่าในไตรมาส 3 ปี 2562 ตลาดส่งออกรถยนต์จะถูกกดดันจากมาตรการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเติบโตชะลอลงซึ่งรวมถึงเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักของไทย

อย่างไรก็ตามคาดว่าจะส่งออกรถยนต์ได้เพิ่มขึ้นในตลาดอาเซียนโดยเฉพาะเวียดนาม หลังรัฐบาลเวียดนามผ่อนคลายความเข้มงวดในการนำเข้ารถยนต์ลงบางส่วน

ขณะที่ตลาดในประเทศ ประเมินว่า ยอดผลิตรถยนต์ไตรมาส 3 ปี 2562 มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั้งในและต่างประเทศ ส่วนยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศมีแนวโน้มหดตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2560 จากกำลังซื้อที่คาดว่าจะชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจ ท่ามกลางภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังทรงตัวในระดับสูง

ด้านยอดผลิตรถยนต์ไตรมาส 2 ปี 2562 มีจำนวน 504,458 คัน ลดลง 2.4 %  ซึ่งเป็นการหดตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2560 ทั้งนี้ยอดผลิตรถยนต์เดือน เม.ย. อยู่ที่ 150,242 คัน เพิ่มขึ้น 11.5%  สูงสุดเมื่อเทียบกับระดับการผลิตเดือนเดียวกันในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นการผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อจากงานมอเตอร์โชว์ที่จัดขึ้นในช่วงวันที่ 25 มี.ค.-7 เม.ย. 2562

ขณะที่ปริมาณการผลิตเดือน พ.ค. และ มิ.ย. หดตัว ติดลบที่  -6.1% และ -8.5% ตามลำดับ ตามกำลังซื้อที่อ่อนแรงลงทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก หลังความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและไทย

ด้านยอดส่งออกรถยนต์ไตรมาส 2 ปี 2562 มีปริมาณต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2560 อยู่ที่ 260,020 คัน ลดลง 2.5 % โดยเฉพาะเดือน เม.ย.2562 มีปริมาณส่งออก 67,114 คัน ต่ำสุดในรอบ 84 เดือน ด้านมูลค่าส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 4,288.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัวถึง 9.0 % โดยตลาดส่งออกหลักลดลงเกือบทุกตลาด อย่างไรก็ตาม ตลาดสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น 33.6% เนื่องจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นมากของสหราชอาณาจักร โดยเพิ่มขึ้น 125.5% และอิตาลี เพิ่มขึ้น 73.9%