วินเซอร์ตั้งเป้ากวาดรายได้2.5พันล้าน เล็ง3-5ปีขยาย50สาขาทั่วประเทศ

28 ส.ค. 2559 | 15:00 น.
วินเซอร์ กางแผน 3-5 ปี ตั้งเป้าโต 12-15% ต่อปี กวาดรายได้ 2.7-2.5 พันล้านบาท เน้นนำนวัตกรรมสู่สินค้าอย่างต่อเนื่อง เร่งรุกตลาดกลาง พร้อมขยาย 50 สาขาทั่วประเทศ เล็งขยายสู่เออีซี ประเดิมปีแรกเปิด 10 สาขา ดันรายได้เพิ่ม 400 ล้านบาท

นายสัมพันธ์ ลู่วีระพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด ในเครือซิเมนต์ไทย ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายประตูหน้าต่างไวนิลแบรนด์ "WINDSOR" เปิดเผยว่า ตลาดประตู-หน้าต่างในปัจจุบันมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท โดยอยู่ในกลุ่มของสินค้าประเภทไวนิลประมาณ 2,800 ล้านบาท หรือ 7-8% ของมูลค่าตลาดรวม ซึ่งบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดประมาณ 70% ของตลาดรวมไวนิล ทั้งนี้ ตลาดประตู-หน้าต่างถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ โดยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณบ้านสร้างใหม่ที่มีกว่า 4-5 แสนหลังต่อปี และตลาดบ้านเก่าอีกกว่า 20 ล้านหลัง

เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวของตลาด บริษัทวางแผนการดำเนินงานในระยะ 3-5 ปี พัฒนาสินค้าใหม่ๆ รวมทั้งการขยายช่องทางในการกระจายสินค้าไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ ผ่านทางพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อรองรับความต้องการในการติดตั้งและบริการหลังขาย และวางแผนขยายตลาดสู่ประเทศอาเซียนเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้น

โดยล่าสุดบริษัทได้ผลิตหน้าต่างรุ่น Fast Renew หน้าต่างที่สามารถเปลี่ยนแทนหน้าต่างบานเก่าได้สะดวกและรวดเร็ว รวมทั้งพัฒนาสินค้าในกลุ่ม Smart Series ระดับราคาประมาณ 3,000-4,000 บาทต่อตารางเมตรเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มสัดส่วนตลาดระดับกลางสู่ 30-40% จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 10% ภายใน 2 ปี

[caption id="attachment_90466" align="aligncenter" width="640"] บริการของ Windsor บริการของ Windsor[/caption]

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจในรูปแบบของการร่วมหาพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าว่าภายในระยะเวลา 3-5 ปี บริษัทจะมีตัวแทนทั้งหมดประมาณ 50 สาขา เบื้องต้นในช่วง 1 ปีแรก (กรกฎาคม 2559-กรกฎาคม 2560) บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่ม 10 สาขา นอกจากนี้ยังเตรียมออกสินค้าใหม่ สำหรับอาคารสูงที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประตูหน้าต่างไวนิลแบบสี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น สำหรับสัดส่วนลูกค้าในปัจจุบันเป็นลูกค้าโครงการ 70% รายย่อย 30%

"ในครึ่งแรกปี 2559 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้กว่า 700 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วที่ทำได้ประมาณ 900 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณบ้านสร้างใหม่ลดลง แต่ทางบริษัทยังคงเป้ารายได้ทั้งปีที่ 1,800 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าตลาดยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง"นายสัมพันธ์ กล่าว

ด้าน นายถาวร รุ้งรุจิเมฆ ผู้จัดการขายและการตลาดสินค้า Profiles บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า การขยายส่วนธุรกิจที่มีพันธมิตรเข้ามาช่วยในการขาย นอกจากจะช่วยกระจายสินค้าและบริการของวินเซอร์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มในส่วนของรายได้ให้กับบริษัท อีกช่องทางหนึ่งด้วย ทำให้คาดการณ์ได้ว่าภายใน 3-5 ปี บริษัทจะมีรายได้อยู่ที่ 2,700-2,800 ล้านบาท

สำหรับช่วงแรกของการเพิ่มช่องทางการขยายตลาดผ่านระบบแฟรนไชส์ บริษัทจะเน้นขยายในประเทศก่อน โดยจะให้ครอบคลุมทั่วประเทศตามที่วางแผนไว้ในปี 2017 ส่วนในเรื่องการไปลงทุนในประเทศ AEC น่าจะยังไม่เห็นในเร็วนี้ๆ แต่มีโอกาสเป็นไปได้ หากสาขาตั้งอยู่ใกล้กับจุดเชื่อมต่อ อาจจะได้รับอานิสงส์จากลูกค้าในแถบประเทศ AEC บ้าง ลูกค้าจากประเทศเหล่านั้นอาจจะสั่งสินค้าเข้าไปผ่านตัวแทนของบริษัท

"คาดว่าถึงสิ้นปีนี้น่าจะเปิดได้ 4-5 สาขา ซึ่งหากเปิดครบทั้ง 10 สาขาจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 400 ล้านบาท ส่วนในเรื่องการไปลงทุนในประเทศ AEC นั้น กำลังศึกษาตลาดอยู่แต่คงรุกตลาดในประเทศให้แข็งแกร่งก่อน โดยจะเน้นพื้นที่ในจังหวัดภาคอีสาน ,ภาคกรุงเทพฯ ตะวันตก และภาคเหนือตอนล่าง แต่ปัจจุบันบริษัทได้มีการส่งออกในบางประเทศเช่น เวียดนาม ,มาเลเซีย, กัมพูชา บางส่วนซึ่งรายได้ยังไม่มาก"นายถาวร กล่าว

Photo : windsor
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,187 วันที่ 28 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559