นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ว่า ครม.ได้เห็นชอบความร่วมมือหลายด้าน ทั้งแบบลงนาม และไม่ลงนาม ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย , ญี่ปุ่น และ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค
ความร่วมมือกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย
เห็นชอบการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ระหว่างการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ประกอบด้วย
โดยผู้แทนของทั้ง 2 เป็นผู้ลงนาม เพื่อ กำหนดให้ประชาชนของประเทศคู่ภาคีที่ถือหนังสือเดินทางทูต และหนังสือเดินทางราชการที่มีผลใช้ได้ ของทั้ง2 ประเทศ ไม่ต้องรับการตรวจลงตราเป็นระยะเวลารวมกันไม่เกินกว่า 90 วัน ในช่วงระยะเวลา 180 วัน นับจากวันแรกที่เดินทางเข้า โดยมีเงื่อนไขว่า บุคคลเหล่านั้นจะไม่ทำงานใด ไม่ว่าการทำงานนั้นจะเป็นการดำเนินกิจการของตนเอง หรือกิจกรรมเชิงพาณิชย์ส่วนตัวใด
เนื่องจาก ซาอุดิอาระเบีย มักมี ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานราชการต่าง ๆ หรือภาคเอกชนจำนวนมากที่เป็นราชวงศ์ มักจะถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางพิเศษ การทำบันทึกความเข้าใจดังกล่าว จะช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อราชการระหว่างหน่วยงานของทั้งสองประเทศได้เป็นอย่างมาก
ความร่วมมือกับรัฐบาลจีน
เห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมระหว่างราชอาณาจักรไทย กับสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยไม่มีการลงนามเพื่อมุ่งสู่การเป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันไทย – จีน เพื่อนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น ร่างถ้อยแถลงร่วมมีประเด็นข้อราชการที่สำคัญ อาทิ
และ แผนความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนว่าด้วยการร่วมกันส่งเสริมเส้นทางเศรษฐกิจสายไหมและเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 เพิ่มพูนความร่วมมือด้านรถไฟ ทางหลวง การขนส่งทางทะเล ท่าอากาศยาน พลังงาน การสื่อสาร อวกาศ และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพิ่มการอำนวยความสะดวกในการลงทุน การค้า และพิธีการทางศุลกากร
ความร่วมมือกับรัฐบาลญี่ปุ่น ครม. เห็นชอบความร่วมมือ 2 ฉบับ
ฉบับแรก คือ ร่างแผนปฏิบัติการร่วม ว่าด้วยหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ ไทย – ญี่ปุ่น ในระยะ 5 ปี คือ 2565 - 2569 โดยมีความร่วมมือ 3 ด้านหลัก คือ
ฉบับที่สอง คือ ร่างถ้อยแถลงร่วมระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น เรื่อง การยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติจนเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม