+++ ตาย ตาย ตาย...ประเทศไทย สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคร้าย “มฤตยูโควิด-19” ทำ “นิวไฮ” ยอดผู้เสียชีวิตอยู่เรื่อย เพราะตัวเลขจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ณ วันที่ 29 มิ.ย.2564 รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มถึง 53 ราย นับเป็นสถิติใหม่
ขณะที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 4,786 ราย แบ่งเป็น ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,659 ราย และผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 127 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้ว 259,301 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่เดือน เม.ย.2564 มียอดถึง 1,929 รายแล้ว
ส่วนภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 2,023 ราย นอกจากนี้ยังมีรายงานถึงกลุ่ม “คนไข้อาการหนัก” ที่มีอาการปอดอักเสบ น่าวิตกอีกนับ 1,000 ราย จากทั่วประเทศ
+++ ส่วนสถานการณ์การ “ฉีดวัคซีนโควิด-19” ที่รายงานล่าสุด พบว่ามีคนได้รับการฉีดวัคซีนสะสม ตั้งแต่ 28 ก.พ. - 28 มิ.ย. 2564 รวม 9,416,972 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวนทั้งหมด 6,537,851 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 จำนวน 2,609,661 ราย (จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์)
โดยขณะนี้ “วัคซีนโควิด-19” หลักที่มีอยู่ในปัจจุบันคือ ซิโนแวค และ แอสตร้าเซนเนก้า สำหรับวัคซีนหลัก หากไม่มีอะไรคลาดเคลื่อน ภายในสิ้นปีนี้ไทยจะมีวัคซีนจาก 2 เจ้านี้รวมกันอย่างน้อย 70 ล้านโดส แบ่งเป็น “ซิโนแวค” ที่จะนำเข้าจากจีน 9 ล้านโดส และ “แอสตร้าเซนเนก้า” ที่ผลิตเองในประเทศอีก 61 ล้านโดส
+++ คนไทยได้รับ “วัคซีนโควิด” ช้า ไม่ทั่วถึง ยอด “คนติด-คนตาย” ก็ยังสูงแบบน่าวิตก ไม่รู้จุด “สิ้นสุด” จะไปอยู่ตรงไหน มาตรการ “กึ่งล็อกดาวน์” ที่ออกมาก็กระทบทั้งผู้ประกอบการร้านค้า ห้าง ภัตตาคาร ธุรกิจคนกลางคืน พ่อค้า แม่ค้า ทุกภาคส่วนเจอ “ผลกระทบ”กันหมด ได้รับความเดือดร้อนไปตามๆ กัน
ส่วนการ “เยียวยาช่วยเหลือ” ทั่วถึงบ้าง ทั่วถึงบ้าง แต่จะหนักไปทาง “ไม่ทั่วถึง” เสียมากกว่า เราจึงได้เห็นคนเดือดร้อน เห็นม็อบบุกไปร้องเรียนถึงทำเนียบรัฐบาล ...ในฐานะรัฐบาลก็คงต้องเร่งมือ เร่งหาคนทาง “สยบโควิด-19” ให้ได้โดยเร็ว เพราะเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากเห็น “คนไทย” ต้องมาตายรายวันจากพิษโควิด ด้วยจำนวนที่สูงมากๆ แบบนี้ ยามวิกฤติ “รัฐบาลลุงตู่” ก็ต้องแก้ปัญหาแบบฉับพลันทันด่วน เพราะมี “ชีวิตคนไทย” เป็นเดิมพัน
+++ “ฉาวโฉ่” กลายเป็นเรื่องร้องเรียนไปถึง “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต่อ “การปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่จังหวัดอุดรธานี บางคน” เพราะได้เข้ามาไปพื้นที่โรงไม้โดยมิได้มีการบอกกล่าวหรือแจ้งแก่เจ้าของ และไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าของในพื้นที่แต่อย่างใด โดยอ้างขอเข้าไปตรวจโรงไม้ และขอตรวจใบอนุญาต ปรากฏว่าโรงไม้ดังกล่าวมีใบอนุญาต ทั้ง ตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักร, ใบอนุญาตตั้งโรงค้าไม้แปรรูป และ ใบอนุญาตค้าหรือมีไว้ครอบครองเพื่อการค้า ซึ่งสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้ หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่ทำด้วยไม้หวงห้าม “ถูกต้อง” เจ้าหน้าที่ก็เลยรุกไปขอดูเอกสารใบบัญชีรายการไม้ เอกสารที่มาของไม้ ทั้งตรวจสอบการตั้งเครื่องจักรตรงตามใบอนุญาตหรือไม่
+++ ที่เป็นปัญหาคือ “เจ้าหน้าที่ป่าไม้” ขู่จะดำเนินคดีกับ “เจ้าของโรงไม้” พร้อมทั้งยื่นเงื่อนไขว่า “จะให้มันจบไหม ขอ 300,000 บาท” แต่เจ้าของโรงไม้ไม่ยอม ทำให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินคดีกับเจ้าของโรงไม้ “เจ้าของโรงไม้” รายนี้ เลยต้องทำเรื่องร้องเรียนถึง “ผู้หลักผู้ใหญ่ต่างๆ” เพราะมองว่าข้อกล่าวหาต่างๆ ไม่เป็นธรรม เป็นการถูกกลั่นแกล้ง ทำให้ได้รับความเดือดร้อน
+++ …พฤติกรรมที่ไม่ชอบมาพากลของ “เจ้าหน้าที่ป่าไม้อุดรธานี” ที่ดูเสมือนว่าใช้อํานาจโดยมิชอบ ได้มีการร้องขอความช่วยเหลือไปหลายหน่วยงานแต่ไม่ได้รับการเหลียวแล เรื่องจึงต้องมาถึงมือ “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” และเรื่องก็กำลังจะมีการยื่นร้องไปยัง “แรมโบ้-เสกสกล อัตถาวงศ์” ผู้ช่วยรมต.ประจำนายกฯ เพื่อผ่านไปยังนายกฯ ด้วย
+++…ว่ากันว่าไม่ใช่เฉพาะ “โรงไม้” แห่งเดียวที่เจอแบบนี้ เจอการ “รีดไถ” ของเจ้าหน้าที่ เห็นที่... “ผู้บังคับบัญชา” จะนิ่งเฉย นิ่งดูดายไม่ได้เสียแล้ว ใครที่ทำตัวเป็น “เจ้าหน้าที่กังฉิน” อย่าปล่อยเอาไว้ ต้องจัดการให้เด็ดขาด...