*** ผ่านพ้นเทศกาลประกาศกำไรไตรมาส 2 ไปแล้ว ทำให้รู้ว่า บริษัทไหนของจริง หรือ แค่ราคาคุย ถ้าจะซอยเป็นกลุ่มย่อย เห็นได้ว่ากลุ่มขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ เด่นกว่าใคร โดยเฉพาะกลุ่มขนส่งระหว่างประเทศ เช่น สินค้า เทกอง อย่าง RCL PSL และ TTA ได้รับอานิสงส์จากค่าระวางเรือที่ปรับขึ้นมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
ขณะเดียวกัน LEO SONIC WICE JWD และ III ได้อานิสงส์จากการขยายตัวของตลาดสินค้าออนไลน์ที่โตขึ้นมาก นับตั้งแต่การระบาดของเชื้อโควิด
กลุ่มที่น่าสนใจมาก คือ หุ้นกลุ่มสื่อบันเทิงอย่าง BEC WORK MCOT MONO AMARIN กำไรพลิกฟื้นขึ้นมาอย่างโดดเด่น
ส่วนกลุ่มธนาคารใหญ่ KBANK SCB BBL KTB และ TTB ยังซึม ๆไปอีกพักใหญ่จากทิศทางเศรษฐกิจและดอกเบี้ยขาลงนั่นเอง
กลุ่มสื่อสาร ADVANC DTAC และ TRUE ผลการดำเนินงานก็ดูท่าทางว่าจะอยู่ในจุดที่ต่ำสุดแล้ว และอาจจะมีโอกาสที่จะปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปี
จังหวะนี้หุ้นที่มีผลงานถึงจะเรียกว่าเป็นของจริง พูดกันให้ชัดเลย นั่นก็คือ จิตนาการมันกินไม่ได้นั่นเองเจ้าค่ะ
*** ทั้ง 7UP และ UKEM ดูเหมือนจะไม่แตกต่างในเรื่องการขายฝันให้กับเม่าด้วยการลากราคาหุ้นขึ้นมาได้ถึง 3 เท่าตัว ในเวลาแค่เพียง 2 เดือน ได้เหมือนกัน แต่ที่ไวยิ่งไปกว่านั้น คือ หุ้นทั้ง 2 ตัวนี้ ราคาร่วงลงมามากกว่าเท่าตัวในเวลาเพียงแค่ 2-3 วัน เท่านั้นเอง
สิ่งที่หุ้นทั้ง 2 ต่างก็มีคล้ายกันก็คือ การลากราคา แม้ว่าจะติดแคชฯ ก็ตาม โดย 7UP ติดแคชฯ ระดับ 2 (T2) ขณะที่ UKEM ติดแคชฯ ระดับ 1 (T1) และอาจจะมีความแตกต่างบ้างที่ในส่วนของ 7UP มีชื่อของคนในตระกูล “พุ่มพันธุ์ม่วง” เป็นตัวละครหลัก ...UKEM ไม่มีตัวละครเด่น
แม้ว่าทั้งสองจะมีกำไรจากผลการดำเนินงานอยู่บ้าง ...แต่ดูไปแล้ว มันก็เป็นกำไรธรรมดาที่ไม่มีความโดดเด่น สตอรี่ก็ไม่เด่น...เด่นแค่ราคาหุ้นที่วิ่งแรงเท่านั้น มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ราคาหุ้นที่ขึ้นแรง ๆ มันก็จะร่วงแรงเป็นธรรมดานั่นเองค่ะ
*** แม้ว่า หุ้นสายการบิน 4 บริษัท จะมี THAI และ NOK ที่ไม่มีผลการดำเนินงานออกมาให้ได้ลุ้น เพราะทั้งคู่ อยู่ในช่วงพักการซื้อขาย อยู่ในแผนฟื้นฟู แต่หุ้นสายการบินที่เหลือ AAV BA มีการซื้อขายหุ้นในตลาดเป็นปกติ แต่การล็อคดาวน์ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน ทำให้หุ้นสายการบินครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มที่ไม่ต่างไปจากปี 63
ดังนั้น ถ้าใครยังสนใจหุ้นสายการบิน ต้องใช้เวลาในการสะสมหุ้นไปนานมากกว่าที่เคยคิดเอาไว้
เจ๊เมาธ์บอกเอาไว้ก่อนว่า หุ้นที่อยู่ในจุดต่ำสุดแล้ว โอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนดีๆ มันก็มีมากกว่าหุ้นที่ยังอยู่ในภาวะปกตินะคะ มันขึ้นอยู่กับการเลือกเท่านั้นเองค่ะ
*** สำหรับหุ้นมหาชน OR ...เจ๊ก็ยังมองในแง่ดีว่า หุ้นตัวนี้เป็นหุ้นที่ยังควรมีเก็บเอาไว้ในพอร์ตการลงทุนอยู่เหมือนเดิม แน่นอนว่า ราคาหุ้นอาจจะร่วงหลุดลงมาจาราคาที่เจ๊มองเอาไว้ว่า 30 บาท ดูแล้วน่าจะเหมาะสมที่สุด แต่ถ้าไม่คิดมากเกินไประดับราคาที่ 28 บาท เป็นราคาที่พอรับได้ สำหรับการลงทุน ระยะยาว แต่ถ้าใครมองแค่เล่นสั้น เล่นรอบ เจ้เมาธ์ ขอบอกเลยว่า นาทีนี้หุ้นใหญ่หลายตัว มีความเสี่ยงที่จะเล่นรอบ นะคะ และ OR นาทีนี้เหมาะกับการเก็บสะสมมากค่ะ